ในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย มี 2 โครงสร้างอำนาจที่ทับซ้อนกันอยู่ เรียกว่า “อำนาจแฝด”
- อำนาจสายแรกมาจากการแต่งตั้ง ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ ทุกตำแหน่งเป็นราชการส่วนภูมิภาค รายงานตรงต่อส่วนกลาง คือ องคาพยพของกระทรวงมหาดไทย
- อำนาจอีกสายมาจากการเลือกตั้ง ประกอบด้วย นายก อบจ., นายกเทศมนตรี, และนายก อบต.
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะโครงสร้างรัฐ รัฐส่วนกลางไม่ไว้วางใจประชาชน ไม่ยอมให้มีอำนาจเดียวในพื้นที่ จึงต้องมีแขนขาของรัฐส่วนกลาง คอยรับคำสั่งและส่งต่อคำสั่งนั้นมายังจังหวัด อำเภอ ตามลำดับ ซึ่งเราไม่ต้องการแบบนี้ เพราะประชาชนไม่มีอำนาจที่แท้จริง
ดังนั้น ต้องระวังไม่ให้เกิดความสับสน เวลาประชาชนในต่างจังหวัดบอกว่าบ้านเขาไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่า และต้องการเลือกตั้งผู้ว่าเพียงอย่างเดียว เพราะหมายความว่าในพื้นที่เดียวกัน คุณจะมีผู้ว่าที่มาจากเลือกตั้ง แต่ผู้บังคับบัญชาคือส่วนกลาง ในขณะเดียวกัน ก็มีนายก อบจ. มาจากการเลือกตั้งด้วย
วิธีที่ดีที่สุด คือรวม 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน ให้มีเพียงอำนาจเดียวในจังหวัด ผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดนั้นๆ มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มีเจ้านายคือประชาชน ไม่ใช่รัฐราชการรวมศูนย์ แต่ละพื้นที่ควรมีอิสระในการออกแบบอนาคตของตัวเอง มีอิสระในการจัดสรรนโยบายของตัวเอง
พูดให้ง่ายขึ้น คือยกเลิกส่วนภูมิภาคทิ้งไปเลย ยกเลิกผู้ว่า นายอำเภอ แล้วเอาอำนาจของสายนี้ทั้งหมดมาอยู่ที่ นายก อบจ. ส่วนจะเรียกนายก อบจ. ว่า “ผู้ว่า” หรือ “ผู้บริหารจังหวัด” หรือชื่อไหน ก็ไปว่ากัน เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ ที่เจริญแล้ว ที่มีลำดับขั้นการพัฒนาที่อยู่สูงกว่าไทยทั้งหมด ไม่มีประเทศไหนมีราชการส่วนภูมิภาค
หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ควรเปิดให้ทำประชามติถามประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจตัวจริงว่าประเทศไทยควรมีราชการส่วนภูมิภาค ผู้ว่าราชการจังหวัดจากการแต่งตั้งอยู่อีกต่อไปหรือไม่ ตามข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของแคมเปญ #ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น
นี่คือใจความหลักของการปกครองท้องถิ่น เป็นรูปแบบรัฐที่ควรจะเป็น คือผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดนั้นมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน มีอิสระในการตัดสินใจ ไม่ต้องรายงานส่วนกลาง เพราะประชาชนไม่ได้เลือกตัวแทนเพื่อให้รับคำสั่งจากส่วนกลาง แต่เราต้องการเลือกคนที่มาใช้อำนาจแทนเรา และเจ้านายของคนคนนั้นคือประชาชนที่เลือกเขาเข้าไป