เราจะอยู่กันแบบนี้จริงๆ เหรอ?
ในสถานการณ์ผจญโควิดที่รัฐบาลแก้ปัญหาได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ จนเต็มไปด้วยเรื่องเศร้าสลดหดหู่
คนติดเชื้อนอนตายข้างถนน ร่างถูกทิ้งไว้ทั้งวันไม่มีใครกล้ายุ่ง
และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เป็น 5-6 ราย
คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งมีผู้ติดเชื้อนับร้อย บางคนนอนหายใจรวยรินไร้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะเห็นว่าผู้เช่าคอนโดส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติ
หรืออีกแห่งหนึ่ง ฝ่ายปกครองอาวุธครบมือยืนจังก้า ล้อมป้องกันคอนโดที่มีผู้เชื้อพักอาศัย ป้องกันไว้ ไม่ให้ผู้ติดเชื้อออกไปไหน
ในขณะที่เกิดเหตุลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายพื้นที่
ในขณะที่ “วัคซีน” อันเป็นทางรอดเดียวของประชาชนยังไม่มีความชัดเจน
ในขณะที่มีกลุ่มเสี่ยงรอตรวจเชื้อโควิดอีกมากมาย มีผู้ป่วยรอเตียงอีกเป็นจำนวนนับไม่หวาดไม่ไหว
รู้มั้ยว่าผู้ที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุดคือ นายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำอะไร ?
อยู่บ้าน – Work From Home
พร้อมกันนี้ก็ออกสปีชบ้าๆ บอๆ “เรียนประชาชนทุกท่าน” แบบปัดความรับผิดชอบ
อ้างโน่นอ้างนี่สารพัดกับการที่ประเทศไทยมาถึงจุดวิกฤต จุดที่ใครต่อใครตอนนี้ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า “รัฐบาลล้มเหลว” หากแต่ว่าในสปีชของนายกรัฐมนตรีกลับเต็มไปด้วยการโทษคนอื่น ไม่เคยโทษตัวเอง
คำขอโทษจากนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้ทำไมมันช่างยากเย็นเหลือเกิน จะเสียศักดิ์ศรีทหารแค่ไหนกันเชียวกับแค่ยอมรับความผิด
ไม่มีเลย แล้วนี่ยังจะ Work From Home ในวันที่คนไม่มี Home ไม่มี Work กำลังจะอดตาย และมีคนตายข้างถนนแล้ว
ท่านนายรัฐมนตรีคิดได้ไง ? หรือไม่คิดอะไรเลย ?
เมื่อวาน ผมที่มีธุระต้องออกจากบ้าน ในวันที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์สูงสุด ภาพที่ได้เห็นตลอดสองข้างทางคือ ประชาชนเขาไม่สนใจแล้ว อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติอะไรนั่น
ให้อยู่แต่บ้าน ให้ Work From Home มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้เหมือนมึง เอ้ย! ลุง เอ้ย! ท่าน
พ่อค้าแม่ขายยังต้องออกมาขายของแม้รายได้จะน้อยนิด แต่ก็ดีกว่าไม่มีรายได้
แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ตุ๊กตุ๊ก สองแถว ยังต้องออกมาวิ่ง ทั้งที่รู้ว่ามีความเสี่ยง แต่ถ้าไม่วิ่งก็อดตาย
ยังมีคนหาเช้ากินค่ำอีกสารพัด
พวกเขายังต้องทำงานในวันที่คนซึ่งควรจะทำงานที่สุดอย่างท่านนายกรัฐมนตรีกลับอยู่บ้าน นอนกระดิกนิ้วตีนเล่นกับหมาด้วยหรือไม่ ? (อันนี้ไม่รู้) และเขียนสปีชบ้าบอ โทษโน่นโทษนี่สารพัด โดยไม่เคยโทษตัวเอง
พอเถอะ, ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องกลับมาทำงานได้แล้ว หรือถ้าจะให้ดีก็กลับมาประกาศลาออก เพื่อให้คนอื่นที่มีความสามารถได้ทำแทน
ส่วนมาตรการ จะล็อคดาวน์เข้มขึ้นก็ได้
แต่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับคนที่ไม่มีที่ทางให้ล็อคดาวน์ตัวเอง และเงินชดเชยเยียวยาประชาชนจากการที่ไม่ได้ทำมาหากินต้องถึงมือโดยเร็ว
เอามั้ย คิดอย่างง่ายๆ เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท จ่ายแบบถ้วนหน้า สำหรับคนอายุ 18 ปี ขึ้นไป
โอนเข้าบัญชีทันที่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรวุ่นวาย
14 วัน หรือ 1 เดือน เชื่อว่าอยู่ในวิสัยที่ประชาชนพอรับได้
ก่อนจะสายเกินการณ์