คนในหมู่บ้านย่านชุมชนแห่งหนึ่งต่างซุบซิบนินทา บ้างเริ่มแสดงความไม่พอใจ กรณีกรุงเทพมหานคร (กทม.)ใช้สนามกีฬาในสังกัดซึ่งตั้งอยู่กลางหมู่บ้านเป็นจุดพักคอยส่งตัวสำหรับผู้ป่วยโควิด
คนติดเชื้อโควิด ไม่ใช่ฆาตกรโหดเหี้ยมอำมหิต
แต่ก็นั่นแหละ ประชาชนที่มีบ้านอยู่ละแวกใกล้เคียงเขาก็ย่อมมีสิทธิที่จะกลัวการแพร่เชื้อ, ซึ่งก็เข้าใจได้
เมื่อมีคนในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟังถึงความไม่พอใจ แรกก็เฉยๆ และออกจะเข้าข้าง กทม.ว่า ถูกต้องแล้ว คนเจ็บไข้ได้ป่วย จะปล่อยเขาทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ดูแลเหรอ มีที่มีทาง มีตึกอาคารอะไรก็ควรจะนำมาให้บริการประชาชน
กระทั่งมาถึงวันนี้ จุดนี้ และสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ มันทำให้คิดไปถึงอีกหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งแม้จะมีบทบาทอยู่บ้างกับการให้ประชาชนใช้พื้นที่ แต่มันก็น้อยนิดนักเมื่อเทียบกับที่ที่มีอยู่ และสถานการณ์วิกฤตที่ประเทศเผชิญขณะนี้
นั่นก็คือ “กองทัพ”
กองทัพมีค่ายทหารที่กว้างขวางใหญ่โต ตั้งอยู่ทั้งใจกลางเมืองกรุง ชานเมืองกรุง ใจกลางตัวจังหวัดชานจังหวัด ฯลฯ เรียกได้ว่ามีอยู่สารพัดทั่วประเทศ
คำถามคือ ทำไมไม่ถูกใช้ดูแลประชาชนให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้ ?
ทำไมจึงเกิดกรณีอย่างชาวชุมชนคลองเตยต้องไปใช้ที่ใต้ทางด่วนและกางเต็นท์กักตัว ?
ทำไมจึงเกิดกรณีอย่างเอกชนต้องสละตึกให้ใช้สำหรับเป็นจุดพักคอย ?
กองทัพมีที่เป็นล้านไร่ ตึกอาคารก็เพียบพร้อม รั้วรอบขอบชิดไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องผู้ป่วยออกมาปะปนกับคนในชุมชนโดยรอบ หรือคนโดยรอบก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไปสัมผัสเชื้อที่ผู้ป่วยทิ้งไว้จากสารคัดหลั่งหรืออะไรต่างๆ
ค่ายทหารมีไว้ทำไม? ทำไมไม่เอามาใช้ดูแลประชาชน?
และถ้าจะให้ดี ในส่วนของทหารเกณฑ์ แทนที่จะเอาไปรบกับหญ้า ฆ่ากับมด เลี้ยงไก่ให้นาย เลี้ยงวัวให้นาย ดูแลบ้านนาย ฯลฯ ที่เกณฑ์ไปปีละมากๆ นั้น ก็เอามาฝึกอบรมดูแลผู้ป่วย ถ้าทำได้ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง
พอตั้งคำถามกับเรื่องที่ดินกองทัพอย่างนี้ ก็ทำให้ต้องย้อนไปสู่สิ่งที่ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยให้ข้อมูลไว้
กับข้อเขียนที่ชื่อ “ที่ดินกองทัพ ดินแดนลึกลับในระบบงบประมาณ”
กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ซึ่งมีหน้าที่หนึ่งคือบริหารที่ราชพัสดุ ซึ่งที่ราชพัสดุนั้นมีอยู่ประมาณ12.5 ล้านไร่
96% เป็นหน่วยงานรัฐถือครอง และอีก 4% กรมธนารักษ์บริหารเอง
และหน่วยงานรัฐที่ถือครองมาที่สุด ให้ใครเดาก็ย่อมเดาถูกว่าต้องเป็น “กระทรวงกลาโหม”
กระทรวงกลาโหมถือครองที่ดินรวมกัน 6.25 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 50% ของที่ราชพัสดุทั้งประเทศ
เห็นตัวเลขอย่างนี้ยิ่งยืนยันความคิดว่าต้องใช้ค่ายทหารดูแลประชาชน ให้มากยิ่งขึ้นอีก มากกว่านี้อีก
ในสถานการณ์ที่วิกฤตโควิดกำลังลุกลามบานปลายแบบนี้ คนนอนรอเตียงในสภาพทุเรศทุรัง คนกลับบ้านต่างจังหวัดก็กักตัวแบบตามมีตามเกิด โรงพยาบาลสนามก็มีไม่เพียงพอและไม่รู้จะสร้างเพิ่มที่ไหน
ค่ายทหารคือคำตอบ
และคำตอบนี้ในท้ายที่สุดแล้วกองทัพต้องไม่มาทวงบุญคุณกับประชาชนทีหลังด้วย
สร้างไปสิ จุดตรวจเชื้อในค่ายทหาร, จุดฉีดวัคซีนในค่ายทหาร, จุดกัดตัวในค่ายทหาร, จุดพักคอยในค่ายทหาร,โรงพยาบาลสนามในค่ายทหาร ฯลฯ
รัฐบาลออกค่าใช้จ่าย กองทัพจะช่วยเหลือหรือสละด้วยก็ดีไม่น้อย และอย่างบ่นว่าไม่มีงบประมาณเพราะถึงตอนนี้อาจต้องถามคำถามวัดใจ
ระหว่างรับประชาชนไปดูแล กับ รับอาวุธยุทโธปกรณ์ไปไว้ในค่าย เลือกอะไร?