ตลาดพระปิ่น 3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี คึกคักครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีเวทีปราศรัยใหญ่สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นนทบุรี โดย ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ ผู้สมัคร อบจ.นนทบุรี เบอร์ 1 ในนามคณะก้าวหน้า ออกรณรงค์ตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยการขึ้นรถแห่เชิญชวนคนมาฟังการปราศรัย โดยมี พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมรณรงค์ในครั้งนี้ด้วย ขณะที่ในช่วงหัวค่ำ ในเวทีปราศรัยนั้น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมขึ้นเวที ท่ามกลางพี่น้องประชาชนชาวนนทบุรีให้การต้องรับอย่างอบอุ่น
เวทีปราศรัยเริ่มต้นด้วยการที่ ส.อบจ.ในแต่ละเขต ขึ้นปราศรัยแนะนำตัวและกล่าวถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และแสดงวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเมืองนนทบุรี จากนั้น นายไพบูลย์ ได้ขึ้นปราศรัยต่อ โดยระบุว่า จากวันแรกที่เราไปในพื้นที่เพื่อทำนโยบาย เราฝันไปไกลมากว่าอยากทำนโยบายให้นนทบุรีเป็นอย่างไร เราได้เห็นปัญหามากมาย เราพัฒนานโยบายด้วยความตั้งใจ โดยใช้เวลาทำกันมากว่าสองปี ที่ผ่านมา เราเดินทางไปทั่วทั้ง 6 อำเภอ 52 ตำบล หลายครั้งต้องตกใจกับสภาพความเป็นจริงที่ชาวนนทบุรีต้องเผชิญ เราได้ยินมาว่ามีคนป่วยต้องเสียชีวิตระหว่างขนย้ายบนท้องถนน ต้องเห็นเด็กต้องกินข้าวบนรถระหว่างไปโรงเรียน เราได้เห็นปัญหาน้ำเน่าเสียที่เป็นมานาน เราได้เคยขับรถลุยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัด เรามีผู้ป่วยติดเตียงนับพันคนในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งถามว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติหรือไม่
คำตอบคือ เปล่าเลย มันคือเรื่องไม่ปกติที่เราพยายามอยู่กับมัน ดังนั้น นโยบายที่เราออกแบบมาคือสิ่งพื้นฐานที่ง่ายที่สุด นั่นคือการคืนคุณภาพชีวิตให้แก่คนนนทบุรี นั่นจึงเป็นที่มาของการพัฒนานโยบายที่ตอบโจทย์ คืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ทำให้รถที่ไม่ติด ให้มีฟุตบาทที่คนเดินได้ ให้มีอาหารที่ดีให้เด็กนักเรียน
“อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราได้ทราบมา เราได้ยินเรื่องการซื้อเสียงมากมายเกิดขึ้นในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 20 ธันวาคมนี้ มีการใช้เงินเป็นร้อยล้านบาทหรือไม่ นี่คือวิถีของการเมืองแบบเก่า แบบที่นนทบุรีเป็นมาตลอดเวลา 17 ปี แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราจะให้ท่านหากคณะก้าวหน้าได้เข้าไปบริหารมีค่ามากมายมหาศาลกว่านั้น เราจะมีรถเมล์ที่ดีใช้ เราจะมีอากาศที่ดีให้ทุกคน เราจะมีสวนสาธารณะ มีปอดสะอาดให้เราทุกคน ดังนั้น ถ้าได้ฟังการปราศรัยของพวกเราวันนี้แล้ว กลับบ้านยกโทรศัพท์ขึ้นมา โทรไปหาเพื่อนฝูง ชักชวนกันไปเลือกตั้ง วันนี้ผมทำเต็มที่แล้ว ผมเชื่อว่าผู้สมัครของเราทุกคนในวันนี้ก็ทำเต็มที่ สุดท้ายเป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องตัดสินใจว่าจะเอาใครมาบริหารนนทบุรี” ไพบูลย์ กล่าว
“ปิยบุตร” ย้ำ “คณะก้าวหน้า” ยึดอุดมการณ์ “พรรคอนาคตใหม่”
สานต่อนโยบายกระจายอำนาจลุยเวทีเลือกตั้งท้องถิ่น
จากนั้น ปิยบุตร ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ชาวนนทบุรีให้ความไว้วางใจพวกเราครั้งที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ เลือกกันเข้ามาถึงกว่า 1.63 แสนคะแนน และที่นี่ยังสัมพันธ์กับตนโดยตรง เพราะทะเบียนบ้านของตนอยู่ที่นี่ แต่ทว่าทั่วประเทศ 6.3 ล้านเสียงที่ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกเราที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและความตั้งใจ แต่ไม่ถึงปีก็หายไปกับตา คนที่พี่น้องฝากความหวังเอาไว้ถูกตัดสิทธิเป็นเวลา 10 ปี แต่อย่างไรก็ตามวันนี้เราทั้งหมด ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงของไพบูลย์และผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้งประเทศในนามคณะก้าวหน้า เราได้ตระเวนเจอประชาชนไปทั่วประเทศ จึงไม่เป็นไร ยุบได้ยุบไป ตัดสิทธิได้ตัดสิทธิไป เรื่องเหล่านี้คือเหรียญตราของนักสู้เพื่อประชาธิปไตย และนี่จึงเป็นที่มาของการกลับมายืนตัวตรงอย่างทะนงองอาจในนามคณะก้าวหน้า แล้วเราก็สืบทอดแนวคิดที่พรรคอนาคตใหม่ทำไว้ สิ่งที่เราต้องการทำ ไม่ว่าจะเรื่องของการปฏิรูปกองทัพ การกระจายการถือครองที่ดิน การขนส่งสาธารณะ การทลายทุนผูกขาด การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรื่องของการกระจายอำนาจ คณะก้าวหน้ารับเรื่องเหล่านี้มารณรงค์อย่างต่อเนื่อง
“ในเรื่องของการกระจายอำนาจ เรามีความตั้งใจที่จะส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกระดับ เพราะเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพมากในแง่ของคน พื้นที่ ทรัพยากร แต่ศักยภาพเหล่านั้นถูกกดทับด้วยโครงสร้างของระบบราชการ ที่เต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ล่าช้า ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน ทุกวันนี้แม้มีการกระจายอำนาจเกิดขึ้นและมีองค์กรปกครองท้องถิ่นในระดับต่างๆ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดของการกระจายอำนาจ ตราบที่โครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดินยังไปกระจุกที่ส่วนกลาง จะกี่นายก อบจ.ก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะจะเจอก้างขวางคอเต็มไปหมด เรามีระเบียบเต็มไปหมดที่ให้อำนาจราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้ามามีอำนาจทับซ้อน ทำให้มีเสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกัน ทำให้ อบจ.เวลาจะลงมือทำงานก็ติดขัดกฎหมายและระเบียบเต็มไปหมด กระทรวง กรมต่างๆเป็นเจ้าที่เจ้าของเต็มไปหมด แล้วพอจะกระจายอำนาจออกไปให้สมบูรณ์ก็จะเจอกับข้ออ้างเรื่องการทุจริต เรื่องผู้มีอิทธิพล นี่จึงเป็นที่มาของการต่อสู้ทั้งเรื่องการเมืองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจที่ต้องเดินไปพร้อมกัน” ปิยบุตร กล่าว
ปิยบุตร กล่าวอีกว่า การเลือก อบจ.ครั้งนี้เป็นการเลือกในรอบเกือบทศวรรษ เฉพาะเจาะจงที่นนทบุรี มีงบประมาณให้ อบจ.ปีละ 2,400 ล้านบาท สี่ปีรวม 9,600 ล้านบาท เป็นเงินที่พี่น้องชาวนนทบุรีจ่ายภาษีมา ไม่ใช่เงินของบ้านหรือตระกูลใดตระกูลหนึ่ง พวกเราเล็งเห็นว่าหากการเมืองท้องถิ่นยังเดินอยู่แบบเดิม เราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงที่นนทบุรีและในระดับชาติได้เลย จ. นนทบุรีเป็นความตั้งใจเฉพาะเจาะจงอย่างยิ่ง ที่นี่เป็นที่แรกๆที่คณะก้าวหน้าคัดผู้สมัครนายก อบจ. จัดเวทีดีเบต คัดสรรกันภายใน ออกแบบนโยบายต่างๆมา เป็นที่ๆ ทำงานมาตั้งแต่เนิ่นๆ จนได้ไพบูลย์มาเป็นผู้สมัครนายก อบจ. ด้วยความรู้ความสามารถ เป็นวิศวกร นักเรียนทุนแลกเปลี่ยนที่เยอรมนี ไพบูลย์เห็นความสำคัญของนนทบุรี เรียนที่นี่ โตที่นี่ ใช้ชีวิตที่นี่ และยังเป็นคนที่มีจุดยืนชัดเจนในเรื่องของประชาธิปไตย ตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ จนมาร่วมกับคณะก้าวหน้าในวันนี้ ไพบูลย์เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ ออกแบบนโยบายที่เป็นระบบ ทำการบ้านร่วมกับนายธนาธรอย่างหนัก จากการเดินหาประชาชนทุกวันเพื่อฟังปัญหา เรียกได้ว่าถ้าพรุ่งนี้ได้เป็นนายก อบจ. ก็พร้อมที่จะทำงานทันที ด้วยการเตรียมตัวเป็นเวลากว่าสองปี
และการทำงานแบบนี้ คือการเมืองแบบใหม่ที่จะสู้กับการเมืองแบบเดิมๆ ที่เรามักจะได้ยินกันมาตลอดว่าเป็นการเมืองที่ใช้อิทธิพล เงินทอง ครอบครัว วนเป็นแบบนี้มาตลอด แต่สุดท้ายเรายืนยันว่าต้องสู้ เพราะถ้าไม่สู้มันก็จะเป็นเช่นนี้ไปทุกสี่ปี เราเลยต้องลงมาสู้เพื่อมาเปลี่ยนมัน พอเสียทีการเมืองแบบเดิมๆที่ใช้เงินนำ ให้ 300-500-1,000 บาท มีแกนคอยเดินแจก และเขาแจกเขาไม่ได้ให้เราฟรีๆ แน่ๆ เขาให้มาเพราะหวังว่าจะได้บริหารปีละ 2,400 ล้านบาท และเอาคืนยิ่งกว่าที่นำมาแจกให้เราเสียอีก เราจะปล่อยให้การเมืองท้องถิ่นเป็นแบบนี้ต่อไปหรือ ถ้าไม่คิดถึงตนเองก็ควรคิดถึงลูกหลานของเรา หากไพบูลย์สามารถแหวกกระแสการแจกเงินเข้าไปเป็นนายก อบจ.ได้ มันไม่ใช่ประโยชน์ของนายไพบูลย์เท่านั้น แต่จะทำให้การแจกเงินทำงานไม่ได้แล้วในระดับท้องถิ่น ในสมัยหน้าทุกคนจะได้เลิกซื้อเสียงแล้วมาแข่งกันที่นโยบาย และเราต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมนี้” ปิยบุตร กล่าว
ปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ นอกจากจะเป็นการได้เลือก อบจ. และ ส.อบจ.แล้ว เรายังจะได้ส่งผลถึงการเมืองระดับชาติ ก็เพราะพรรคอนาคตใหม่มาจนถึงคณะก้าวหน้า ชัดเจนว่าอยู่ตรงข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าชาวนนทบุรีออกมาร่วมกันกาเลือกพวกเราให้มากๆ นั่นก็จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด ว่าชาวนนทบุรีต้องการให้ประยุทธ์ออกไปได้แล้ว หากพี่น้องเลือกผู้สมัครของคณะก้าวหน้าทั่วประเทศให้ถล่มทลาย อย่างน้อยจะเป็นแรงหนุนเสริมให้กับลูกหลานของเราที่กำลังชุมนุมอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้ เพราะในทางกลับกัน การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้มีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวนมากที่เอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์อยู่แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ แล้วถ้าเขาเหล่านี้ชนะการเลือกตั้งได้มาก ก็จะต้องมาอ้างว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลยังดีอยู่
“การเลือกตั้ง 20 ธันวาคมนี้สำคัญอย่างยิ่ง ขออนุญาตสื่อสารไปถึงพี่น้องประชาชนทั้งหมด การเลือกตั้งครั้งนี้ประหลาดกว่าที่เป็นมา ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่มีการเลือกตั้งนอกเขต ใครอยากกานายก อบจ.จังหวัดใดตัวต้องไปอยู่ในจังหวัดนั้นในวันที่ 20 ธันวาคม เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนสำรวจตรวจสอบให้ดีว่าตัวเองมีสิทธิอยู่ที่ไหน แล้วจูงมือพี่น้องลูกหลานออกไปกากันให้เยอะๆ ท่านอาจจะต้องเสียค่าเดินทาง แต่การเสียครั้งนี้คุ้มค่าแน่นอน เพราะเรากำลังจะไปเลือกคนที่จะมาบริหารจังหวัดของท่าน ซึ่งแต่ละปีมีงบประมาณเป็นพันๆล้าน ว่าเขาจะบริหารออกมาหน้าตาเป็นอบ่างไร ขอพี่น้องชาวนนทบุรีเดินหน้าข้าคูหา ร่วมกันใช้สิทธิเสียงเปลี่ยนนายก อบจ. แบบเดิมๆให้เป็นนายก อบจ.แบบใหม่ เปลี่ยนการเมืองท้องถิ่นแบบเดิมๆให้เป็นการเมืองแบบใหม่ๆ และส่งสัญญาณดังๆไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป พร้อมกับให้กำลังใจนายธนาธร ใช้แรง ใช้สมองของเขาพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประเทศไทยไม่ต้องรอ 10 ปี” ปิยบุตร กล่าวทิ้งท้าย
“ธนาธร” ชี้ 3 ข้อเลือก “ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ”
ส่งสัญญาณต้านเผด็จการ-ส่งพลังยุติรัฐรวมศูนย์
ด้าน ธนาธร กล่าวว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ชาวนนทบุรีให้ความไว้วางใจพวกเราพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงตอบรับกว่า 1.63 แสนคะแนน เหล่านี้มาจากความศรัทธาและเชื่อมั่นในพรรคอนาคตใหม่ ทุกท่านสนับสนุนตนมาแล้ว รอบนี้เป็นการเลือกตั้งระดับจังหวัด ตนมาขอความสนับสนุนให้นายก อบจ.ของเราอีกครั้ง รวมทั้งผู้สมัคร ส.อบจ.ของเราที่จังหวัดนนทบุรีทั้ง 33 คน จาก 36 เขตด้วย โดยเหตุผลที่ต้องขอการสนับสนุน ก็เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้มีความสำคัญ 3 ประการ กล่าวคือ ประการแรก เป็นการประกาศว่านนทบุรีไม่เอาประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะตั้งแต่การทำรัฐประหารปี 2557 สิ่งที่คณะรัฐประหารทำก็คือหยุดการเลือกตั้งทุกระดับ ทำให้เราไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมา 8 ปีกว่าแล้ว และ พล.อ.ประยุทธ์เขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, กกต., ป.ป.ช., ส.ว. ด้วยมือของตัวเอง พอใกล้จะถึงการเลือกตั้งก็ตั้งพรรคขึ้นมาพรรคหนึ่ง ทำการสืบทอดอำนาจด้วยกลไกทั้งหมดที่มีอยู่ 7 ปีที่ผ่านมา ชัดเจนแล้วว่าประเทศไทยเดินหน้าหรือถอยหลัง
“ประการที่สอง ท่านยังได้ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงปฏิรูประบบรัฐราชการรวมศูนย์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ทุกวันนี้แต่ละจังหวัดเจริญเติบโตไม่เท่ากัน เม็ดเงินภาษีถูกเอาไปไว้ที่ส่วนกลางแล้วแบ่งกลับมาไม่เท่ากัน โครสร้างที่กดทับศักยภาพของประเทศไทยคือระบบรัฐราชการที่รวมศูนย์ทีกรุงเทพ และถ้าเราไม่ปฏิรูปส่วนนี้ ไม่มีทางเลยที่ประเทศไทยไปไกลกว่านี้ได้ และประการที่สาม การเลือกพวกเราคณะก้าวหน้า ยังจะทำให้ได้นนทบุรีที่ดีกว่านี้ได้ตามศักยภาพที่จังหวัดนนทบุรีสามารถเป็นได้” ธนาธร กล่าว
ธนาธร กล่าวอีกว่า ตนกับนายไพบูลย์ใช้เวลาเยอะมากในการเดินลงพื้นที่ เรายึดหลักการเดินสามจริง คือ 1. ดูพื้นที่จริง 2. พูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจริง และ 3.ทำภายใต้สถานการณ์จริง ใช้หลักการนี้ในการสร้างนโยบาย เราเดินดูตั้งแต่แม่น้ำลำคลอง ถนนหนทางพื้นที่ต่างๆที่มีการจราจรติดขัด ไปจนถึงบ่อขยะ ฯลฯ เพื่อมาสร้างนโยบายให้กับนนทบุรี วิสัยทัศน์ของนายไพบูลย์ คือการสร้างคมนาคมสาธารณะที่ดี ให้ออกจากบ้านไปสู่ระบบจนส่งสาธารณะหลักได้โดยไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว จังหวัดนนทบุรีมีโรงเรียนภายใต้สังกัดอยู่ถึง 34 โรงเรียน ต้องมีคุณภาพกว่านี้ การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมากต่ออนาคตลูกหลานของทุกท่า 34 โรงเรียนได้เข้าถึงโภชนาการที่มีคุณภาพ เหมาะสมต่อการเจริญเจิบโต เราอยากลงทุนในอุปกรณ์การเรียนการสอนมากขึ้น มีความครบครันมากขึ้น อยากให้โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ทุกคนได้ใช้สิทธิพลเมืองอย่างปลอดภัย
“นอกจากนี้ เราอยากพัฒนาการท่องเที่ยว นั่นคือการพัฒนาเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นปอดชั้นดีของคนกรุงเทพและนนทบุรี ปัจจุบันเกาะเกร็ดสามารถเข้าได้ฝั่งเดียวคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ ที่เอื้อให้คนกรุงเทพเข้ามาใช้ แต่คนนนทบุรีเข้าถึงได้ลำบาก นายไพบูลย์จะลงทุนในการเปิดเส้นทางเข้าใหม่ให้คนนนทบุรี ลงทุนสร้างศูนย์กีฬา ให้คนเข้าไปออกกำลังและพักผ่อนในเกาะเกร็ดได้มากขึ้น รวมถึง เราอยากปลูกต้นไม้ สร้างนนทบุรีสีเขียว ลงทุนในสวนสาธารณะมากขึ้น ให้คนนนทบุรีได้มีสถานที่พักผ่อนและออกกพลังกายอย่างเพียงพอ ใกล้บ้าน ขณะที่การจัดการขยะทุกวันนี้ก็ไม่ได้รับการจัดการอย่างมืออาชีพ อบจ.นนทบุรีมีบ่อขยะขนาดใหญ่ แต่ไม่มีการจัดการที่ดีพอ เราจึงอยากไปทำให้บ่อขยะของจังหวัดนนทบุรีถูกสุขลักษณะ มีการจัดการคัดแยกอย่างถูกต้อง เพื่อให้นนทบุรีสามารถบริหารจัดการขยะได้ดีกว่านี้ ทั้งนี้ นนทบุรีวันนี้เป็นบ้านของคนหลายคนที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพ คือบ้านของชนชั้นกลางและชนชั้นกลางระดับล่างที่ไม่สามารซื้อบ้านในกรุงเทพได้ แต่ถ้าเราปรับเมืองของเราให้น่าอยู่ มีการคมนาคมที่ดี พวกเขาจะมาตั้งบริษัทที่นี่ มาลงทุนที่นี่ มีเม็ดเงินเข้ามาที่นี่ มีการจ้างงาน คนนนทบุรีไม่ต้องไปหางานที่อื่น สร้างเศรษฐกิจใหม่ๆ ขึ้นมา” ธนาธร กล่าว
20 ธันวาคมชวนชาวนนทบุรีเลือก “คณะก้าวหน้า”
ให้ถล่มทลาย-เปลี่ยนนนทบุรีสู่การเมืองและอนาคตแบบใหม่
ธนาธร กล่าวทิ้งท้ายว่า นายไพบูลย์นอกจากจะมีความแน่วแน่ในจุดยืนประชาธิปไตยแล้ว ยังมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนานนทบุรีไปข้างหน้า ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่ท่านควรจะเลือกนายไพบูลย์ นี่คือสิ่งที่ท่านจะได้ถ้าท่านเลือกคณะก้าวหน้า คือได้ส่งเสียงของชาวนนทบุรี ว่าเราต้องการเปลีย่นแปลง ต้องการประเทศไทยที่ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อปฏิรูปรัฐราชการที่รวมศูนย์ ให้ได้นายก อบจ.ที่มีวิสัยทัศน์ เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ต้องตอบแทนระบบอุปถัมภ์เดิมๆ อย่างไรก็ตามกว่า 1.63 แสนคะแนน จากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่พี่น้องเคยให้กับพรรคอนาคตใหม่ ไม่พอที่จะผลักดันให้เราเป็นนายก อบจ.ได้ นนทบุรีมีผู้มีสิทธิออกเสียงประมาณ 1 ล้านคน หากออกมาใช้สิทธิสักประมาณ 60% ก็คือ 6 แสนคน เพราะฉะนั้น จะชนะได้ต้องได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนมากกว่าวันเลือกตั้ง ส.ส.ถึงเท่าตัว ซึ่งการที่พวกเราจะได้มาแต่ละเสียงโดยไม่ใช่อิทธิพล ไม่ใช้เงินซื้อเสียง ไม่ใช่เรื่องง่าย ป้ายของนายไพบูลย์ทุกวันนี้หายไป 50% แล้ว นี่คือการเมืองเก่า นี่คืออิทธิพล นี่เป็นการเมืองที่ล้าหลังมาก ทำมา 20-30 ปี คำถามคือพอได้แล้วหรือยัง ท่านอยากให้ลูกหลานเราโตมาในสังคมแบบนี้หรือ
“ถ้าท่านอยากเห็นนนทบุรีอย่างที่นายไพบูลย์วาดฝันไว้ เรายังต้องการพลังและการสนับสนุนจากทุกท่านอีกเยอะ วันที่ 20 ธันวาคมนี้คือการกำหนดอนาคตจังหวัดนนทบุรี ที่ไม่มีการเปลี่ยนตัวนายก อบจ. มาแล้ว 17 ปี ถ้านายไพบูลย์แพ้ หมายความว่านายก อบจ.คนเดิมก็จะอยู่ต่อไปอีกรวมกันเป็น 21 ปี งบประมาณที่เข้าไปบริหาร 9.6 พันล้านต่อวาระเป็นจำนวนมหาศาล ทำไมนนทบุรีถึงไม่ดีขึ้นมา ดังนั้น 5 วันที่เหลือคือ 5 วันที่จะกำหนดอนาคตของนนทบุรี และนนทบุรีจะเป็นอย่างไรต่อไปข้างหน้า ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทุกคนจะทำในวันที่ 20 ธันวาคมนี้” ธนาธร กล่าว
___
ผลิตโดย คณะก้าวหน้า โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 1768 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ช้ัน 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 ผลิตเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 จำนวน 1 ชิ้น
