นับพันแห่ฟัง ! “ธนาธร” ควง “ศุภวัฒน์ ศุภศิริ” ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ หนุนเป็น นายก อบจ.อายุน้อยที่สุด สอดคล้องยุคสมัย – เจ้าตัวพร้อม ชู 4 ด้าน เปลี่ยนเมือง “แพร่”

14 ธันวาคม 2563

ช่วงหัวค่ำ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา จ.แพร่ มีเวทีปราศรัย “แบบเบิ้มๆ” โดย สุภวัฒน์ ศุภศิริ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แพร่ เบอร์ 3 หรือที่คนแพร่รู้จักกันในนาม “สจ.ลี่” พร้อมทีมผู้สมัครสมาชิกสภา (ส.อบจ.) ในนามคณะก้าวหน้า ซึ่งทำให้ลานเพลิน อีซูซุ สามแยกไฟแดงพญาพล ที่เคยกว้างใหญ่ไพศาลดูเล็กลงไปถนัดตา เนื่องจากมีประชาชนมารอฟังการปราศรัยเนืองแน่น คาดการณ์โดยประมาณแล้วกว่า 1,500 คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน ให้พอได้คลายหนาวจากอุณหภูมิที่ลดต่ำ

เวทีเริ่มต้นโดยผู้ดำเนินรายการกล่าวทักทายกับประชาชน จากนั้นก็ถึงคิว “สจ.ลี่” หรือ ศุภวัฒน์ ที่หมายมั่นปั้นมือว่าคำนำหน้าชื่อที่ “คนแป้” รู้จักจะเปลี่ยนเป็น “นายก ลี่” ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยศุภวัฒน์ขึ้นกล่าวถึงความตั้งใจของตัวเองในการเสนอตัวเป็น นายก อบจ. เขาพูดถึงประสบการณ์ที่เคยทำงานการเมืองท้องถิ่นสมัยเมื่อครั้งเป็น ส.อบจ. (คนมักเรียกติดปากว่า สจ.) เรื่องหนึ่งที่ให้ความสำคัญคือ “น้ำเพื่อการเกษตร” โดยเคยดำรงตำแหน่งเป็น ประธานคณะกรรมการการจัดการนํ้าชลประทานของจังหวัด มีประสบการณ์ รู้ปัญหา และครั้งนี้ถ้าได้เป็นผู้บริหาร อบจ. ตั้งใจจะทำให้พื้นที่เกษตรใน จ.แพร่ มีน้ำใช้ทั่วถึง

เพราะนั่นหมายถึง การลดลดต้นทุนของพี่น้องในการทำการเกษตร เพราะนั่นหมายถึงการที่พี่น้องเกษตรกรจะมีช่วงเวลาเพาะปลูกที่ยาวนานขึ้น หมายถึงเงินในกระเป๋าที่เพิ่มมากขึ้น หมายถึงการจับจ่าย หมายถึงการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของเมืองแพร่

นโยบายหลัก 4 ด้าน เปลี่ยนเมือง “แพร่” 

“สุภวัฒน์” ลั่น คนหนุ่มสาวจะไม่ยอมให้ย่ำอยู่กับที่ !

จากนั้น ศุภวัฒน์ ก็พูดถึงนโยบายหลัก 4 ด้านที่เขาตั้งใจจะทำเพื่อ “เปลี่ยนเมืองแพร่” ไล่ไปทีละข้อ ได้แก่  

1.ด้านสุขภาพ โดยการยกระดับระบบสาธารณสุข ด้วยการสร้างศูนย์ประสานงานสาธารณสุขระดับจังหวัดและระดับอำเภอ โดยเน้นไปที่กลุ่มที่เป็นฐานรากของสังคม และมีผลต่อเศรษฐกิจด้วย เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง และเด็กเล็ก 

2.ด้านเศรษฐกิจ มีนโยบายสำคัญคือ ขนส่งสาธารณะที่ดี ปลอดภัย และราคาย่อมเยาว์ โดยประเดิมทำในเขตเมืองผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด วัด ฯลฯ เชื่อว่าถ้าสามารถสร้างเครือข่ายการสัญจรให้คนไปมาหาสู่กันได้ จะมีการจับจ่าย นักท่องเที่ยวเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวสะดวกสบาย เงินหมุนเวียนสะดวกขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเมืองแพร่ยกระดับได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องสินค้าท้องถิ่น เรื่องศูนย์กลางกีฬาต่างๆ ที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดดีขึ้นด้วย

3.ด้านการศึกษา ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม และหนึ่งในเรื่องที่จะทำคือสร้าง “แพร่ ครีเอทีฟ ปาร์ค” โดยจะใช้พื้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก ที่รกร้างของเมืองแพร่มาปรับปรุง ให้เป็นเหมือนศูนย์เรียนรู้ หรือห้องทดลองวิจัยขนาดใหญ่ในทุกสาขาความรู้ เป็นศูนย์ที่มีชีวิต มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา และจะมีการจัดสัปดาห์วิชาการ ส่งคนไปทุกอำเภอ ในลักษณะโรดโชว์ความรู้ให้กับเด็กๆ

4. ด้านสิ่งแวดล้อม พื้นที่ป่า 70 เปอร์เซ็นต์ของแพร่ ทำอย่างไรที่จะรักษาไว้ให้ได้ และก็ทำให้คนอยู่กับป่าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ด้วย นี่คือโจทย์ที่เชื่อว่าเรื่องของนโยบาย “ป่าชุมชน” จะเป็นคำตอบ ส่งเสริมท่องเที่ยวและอนุรักษ์ป่าไปได้ในคราวเดียวกัน และถ้าจัดการได้ดีก็จะสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ได้ด้วย

สุภวัฒน์ บอกว่า อีกเรื่องที่สำคัญคือ อบจ.แพร่ วันนี้จากเคยเป็น อบจ. เกรดเอ ถูกจัดอันดับเหลือเกรดดี จากอันดับต้นๆ ของประเทศ วันนี้ตกมาเป็นอันดับที่ 40 พี่น้องประชาชนหลายคนไม่รู้ และอาจจะไม่รู้ถึงความสำคัญของ อบจ. ไม่เคยรู้ว่าทำอะไร ปีหนึ่งมีงบประมาณเท่าไหร่ จัดสรรไปกับอะไรบ้าง แต่ถ้าอยู่ภายใต้การบริหารของคณะก้าวหน้า ยืนยันว่าทุกก้าวเดิน ทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เราจะมีการถ่ายทอดสดว่าการประชุม อบจ.คุยเรื่องอะไร รวมถึงประชุม ส.อบจ.ที่พี่น้องประชาชนเลือกไปนั้นได้ทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ท่านหรือไม่ เอาความเดือดร้อนไปถกในสภา อบจ. ให้หรือไม่ ก็สามารถติดตามตรวจสอบได้เช่นกัน ถ้าเราได้มีโอกาสทำงาน สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น ความโปร่งใสจะกลับมา

“คนแพร่ไม่ได้มีการเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่นมาแต่ปี 2555 ซึ่งวันนี้ผ่ามาแล้วเกือบ 10 ปี ที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลง เราคนหนุ่มคนสาวที่มีความฝัน มีความตั้งใจ มีอุดมการณ์ พร้อมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงเมืองแพร่ใหม่ ทำให้ตรงจุด ตรงใจ อย่างที่เราต้องการและควรจะเป็น เราไม่ยอมอีกแล้วที่จะให้แพร่โตไปช้าหรือถึงขั้นว่าย่ำอยู่กับที่ วันนี้ ก้าวหน้าไปด้วยกัน 20 ธันวาคมนี้ เลือกนายก อบจ. คณะก้าวหน้า เบอร์ 3” สุภวัฒน์ กล่าว

“ธนาธร” ชี้  3 เหตุผลเลือก “สุภวัฒน์ ศุภศิริ” เป็นนายก อบจ.

 ปลุก 20 ธ.ค.ไปแสดงพลังไม่เอาเผด็จการ

เมื่อสุภวัฒน์ปราศรัยจบก็เชิญ ผู้สมัคร  ส.อบจ. ทั้ง 15 เขต จาก 24 เขต ที่ส่งในนามคณะก้าวหน้าก็ขึ้นมาแนะนำตัวทีละคน ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงไฮไลต์ หรือที่ผู้ดำเนินรายการเรียก “บิ๊ก เซอร์ไพรซ์” นั่นก็คือการปราศรัยของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งสรุปความได้เป็นหัวข้อว่า “3 เหตุผลที่ทำไมต้องเลือก สุภวัฒน์ ศุภศิริ เป็นนายก อบจ.”

1.มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด โดยกฎหมายการเลือกตั้งระบุไว้ว่า ผู้สมัครนายก อบจ. ต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป และสุภวัฒน์วันนี้มีอายุ 35 ปี 5 เดือน และนี่คือผู้สมัครนายก อบจ. ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย ที่เหมาะสมสอดคล้องกับยุคสมัย ในโลกทุกวันนี้ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน จำเป็นที่ต้องมีคนเท่าทันโลกใบใหม่ ซึ่งกระแสทั่วโลกวันนี้ก็โหยหาผู้นำที่เป็นคนรุ่นใหม่ เช่น นายกรัฐมนตรีประเทศฟินแลนด์ตอนรับตำแหน่งอายุ 34 ปี, นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ตอนรับตำแหน่ง อายุ 36 ปี, หรือประธานาธิบดีฝรั่งเศสตอนรับตำแหน่ง อายุ 39 ปี เป็นต้น  และนอกจากนี้จากที่ทำงานด้วยกันมาหลายเดือน มั่นใจได้ว่า สุภวัฒน์จะไม่เป็น “งูเห่า” อย่างแน่นอน

2.แพร่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ที่รอผู้นำที่เหมาะสมมาเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ แพร่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีธรรมชาติที่งดงาม ศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิมต่างๆ มากมาย แต่ทำไมที่ผ่านมายังไม่พัฒนา คนยังยากจนอยู่ ดังนั้น จึงต้องเปลี่ยนแปลง จังหวัดแพร่ไม่มีการเปลี่ยนนายก อบจ. มาแล้ว 13 ปีแล้ว ถ้ารอบนี้ยังเป็นแบบเดิมรวมแล้วก็จะเป็น 17 ปี นั่นหมายถึงลูกเกิดมาเรียนจนจบ ม.6 นายก อบจ. ก็ยังเป็นคนเดิม แล้วอย่างนี้จะหวังความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร แต่ภายใต้การนำของสุภวัฒน์ เชื่อว่างบประมาณที่อยู่ภายใต้การบริหารของ อบจ.แพร่ ที่มาจากภาษีประชาชน ในหนึ่งปีมากกว่า 500 ล้านบาท หนึ่งวาระมากกว่า 2000 ล้านบาทนั้น จะถูกใช้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อความเปลี่ยนแปลงของเมืองแพร่อย่างแน่นอน

3.แสดงถึงความรักในประชาธิปไตยของคนแพร่ เพราะรัฐบาลชุดนี้มาจากการรัฐประหาร เขาเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาเอง แต่งตั้งองค์กรอิสระ ยัดคดีให้กับคนเห็นต่าง และเมื่อเขาพร้อมเขาก็ตั้งพรรคที่มีชื่อคล้ายโครงการสวัสดิการของรัฐที่มาจากภาษีประชาชนขึ้น แล้วเสนอชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และได้เป็นนายกมาด้วยบัตรเขย่งและ ส.ว.ที่ไม่เห็นหัวประชาชน ดังนั้น 20 ธันวาคมนี้ เราจะใช้เวทีเลือกตั้ง อบจ. – ส.อบจ. ส่งเสียงว่าเราไม่เอาประยุทธ์ เราไม่เอารัฐบาลชุดนี้ และจะเลือกสุภวัฒน์ เลือกผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าให้ถล่มทลาย 

ธนาธร กล่าวบนเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า ฝ่ายเผด็จการนั้นเขาไม่อยากให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิใช้เสียง จะเห็นว่าหลังการยึดอำนาจปี 2557 สิ่งแรกที่เขาทำก็คือยกเลิกการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ เขายกเลิกการเลือกตั้ง อบจ. เขายกเลิกการเลือกตั้งเทศบาล เขายกเลิกการเลือกตั้ง อบต. ดังนั้น หากทุกท่านอยากเป็นส่วนหนึ่งของการเรียกร้องสังคมที่ดีกว่า อย่าไปยอมกับสวัสดิการเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาหล่อเลี้ยงให้ท่านพอมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รวย ไม่มั่นคง เพราะเขาจะได้ปกครองท่านได้ง่ายๆ แต่จงเรียกร้องประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง

“อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งท้องถิ่น ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของจังหวัดแพร่นี้ เรายังต้องการการสนับสนุนจากทุกท่านอีกเยอะ ถ้าท่านเห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ของศุภวัฒน์ ศุภศิริ ถ้าท่านเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมกล่าวมา ช่วยกันรณรงค์ให้คนในครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย เลือกผู้สม้ครจากคณะก้าวหน้า ในวันที่ 20 ธันวาคม อย่างถล่มทลาย หนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของทุกท่านมีความหมาย หนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของทุกท่านกำหนดอนาคตท้องถิ่นของเราได้ เปลี่ยนแปลงได้ และเริ่มต้นได้ที่บ้านของเรา” ธนาธร กล่าว 

.

ปิดท้ายการปราศรัยด้วยการแสดงความขอบคุณประชาชนที่มารับฟัง บรรยากาศในช่วงท้าย ทั้งสุภวัฒน์และธนาธรรับดอกไม้พวงมาลัยจากประชาชน ร่วมถ่ายรูปกันเป็นที่คึกคักสนุกสนาน


เห็นปรากฏการณ์นี้แล้ว ไม่แน่ว่าแพร่อาจจะมี นายก อบจ.ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย ก็เป็นได้ !

_______

__
ผลิตโดย คณะก้าวหน้า โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 1768 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ช้ัน 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 ผลิตเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 จำนวน 1 ชิ้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเด่น

บทความ

   ดูทั้งหมด
15 ธันวาคม 2565    Common School

สถาบันครอบครัวแบบขงจื๊อและรัฐสวัสดิการของเกาหลีใต้

8 ธันวาคม 2565    Common School

FIFA World Cup กับด้านมืดของ (เหล่า) เจ้าภาพที่กำลังละเมิดสิทธิผู้อื่น

22 พฤศจิกายน 2565    Common School

Brave New World

19 พฤศจิกายน 2565    Common School

สายใยครอบครัวถักทอรัฐสวัสดิการ

19 พฤศจิกายน 2565    Common School

หรือที่ความรู้ไร้ประโยชน์เพราะมันคัดง้างระบอบอำนาจ? : อ่านไขว้ “ประโยชน์ของความรู้ที่ไม่มีประโยชน์” x “แม่ง โคตรโฟนี่เลย”

14 พฤศจิกายน 2565    Common School

“เรื่องง่ายๆ” นวนิยายที่บอกว่าระบบราชการไม่เรียกร้องทักษะการใช้เหตุผล

13 พฤศจิกายน 2565    การเมืองท้องถิ่น บทความ

จดหมายเปิดผนึก ถึงประชาชนที่เคารพ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการและบุคลากรท้องถิ่นทั่วประเทศไทย

9 พฤศจิกายน 2565    Common School

เครือข่ายทหารสายวัง 2 แผ่นดิน กรณี “ทหารเสือราชินี” และ “ทหารคอแดง”

7 พฤศจิกายน 2565    Common School

เรื่องเกิดจากนามสกุลใหม่: ทลายสังคมชายเป็นใหญ่ด้วยรักแท้ฝ่าข้อจำกัด (?)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า