ตั้งคำถามแต่ถูกยัดคดีปิดปาก ! “ธนาธร” ยันเป็นบทบาทตรวจสอบการทำงานรัฐบาล – อัด “ประยุทธ์” หยุดบิดเบือนความผิดพลาดด้วยการอ้างสถาบันกษัตริย์

21 มกราคม 2564

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงข่าวกรณีรัฐบาลแจ้งความดำเนินคดีตนเองจากการไลฟ์สด “วัคซีนพระราชทาน ใครได้ ใครเสีย?” ในข้อกล่าวหาทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 โดยระบุว่า เพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิด ขอยืนยันว่าเราสนับสนุนให้รัฐบาลมีการเจรจาเรื่องวัคซีนกับริษัทต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้มีใช้อย่างครอบคลุมและรวดเร็วที่สุด เราให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงทุกคนที่ทำหน้าที่นี้ ซึ่งเราเองก็เคยนำเสนอให้แนวทางไปแล้ว อดีตเพื่อนร่วมงานของตนคือ ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็มีการนำเสนอเรื่องการจัดหาวัคซีนตั้งแต่ครั้ง พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เข้าสภาเมื่อต้นปีที่แล้ว

ธนาธร กล่าวว่า เราให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน แต่ประเด็นที่ทำให้ต้องออกมาแถลงข่าว คือข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า

1. ประเทศไทยตอนนี้จัดหาวัคซีนที่มีความชัดเจนแล้วเพียง 21.5 เปอร์เซ็นต์ของประชากร โดยมาจากแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส จากซิโนแวค 2 ล้านโดส ซึ่งแน่นอนว่ามีความพยายามขอซื้อจากแอสตราเซเนกาเพิ่มเติม โดยมีมติ ครม. ออกมาแล้วแต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง

2.ประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มฉีดวัคซีน ขณะที่ประเทศอื่นๆ เริ่มไปแล้ว ซึ่งเร็วที่สุดคือประเทศอิสราเอล รองลงมาคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา

3. หลายประเทศทั่วโลกมีกลยุทธ์การจัดหาวัคซีนคือซื้อจากหลากหลายๆ บริษัท

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ เกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ เพราะลองคิดดูว่าถ้าประเทศไทยจัดซื้อจัดหาวัคซีนได้ช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน จัดหาได้น้อยกว่า รวมถึงฉีดวัคซีนได้ช้ากว่าจะเกิดอะไรกับเศรษฐกิจ เพราะวัคซีนเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ จะทำให้เราจะหลุดพ้นจากเศรษฐกิจที่ชะงักงันที่เกิดจากโควิดได้ แต่ทว่าตอนนี้ เรายังอยู่ในอุโมงค์กันอยู่ ตราบใดที่ไม่มีวัคซีนฉีดมากพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมได้ เราก็ยังคงมืดมิด เราก็ยังคงอยู่ในอุโมงค์

“วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีหลายประเทศจัดหาวัคซีนได้มากกว่าจำนวนประชากร โดยบางประเทศได้ถึง 200-300 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ขณะที่ประเทศไทยเราแค่ 21.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งความเสียหายคือ ถ้าประเทศไหนสร้างภูมิคุ้มกันเสร็จก่อนก็มีโอกาสฟื้นตัว ฟื้นฟูประเทศได้เร็ว ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมา ทำให้การเจรจากับต่างประเทศ การนำเข้าส่งออกกลับมา ประชาชนใช้ชีวิตเป็นปกติเร็วกว่าคนอื่น

“แต่ถ้าช้ากว่านี้สัก 6 เดือน ประชาชนต้องทนกันต่อไป และก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าอาจเกิดการระบาดรอบ 3 รอบ 4 รอบ 5 ได้ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ ซึ่งประชาชนก็คงต้องใชัชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวต่อไป และนี่คือเหตุผลที่เราต้องออกมาบอกรัฐบาล ออกมาพูดกับประชาชนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น” ธนาธร กล่าว

ธนาธร กล่าวว่า วันนี้ เรามีดีลวัคซีนที่ทำกับ บริษัท แอสตราเซเนกา อย่างเป็นทางการขนาดใหญ่ดีลเดียวเท่านั้น และที่สำคัญคือมีบริษัทเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทเอกชนก็ย่อมเป็นองค์กรที่แสวงหากำไร สมมติว่าเราลองปิดชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทนี้ออกไป บริษัทนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลมหาศาล จากเดิมที 600 ล้าน แล้วเป็น 1,400 ล้านบาท แล้วประชาชนจะไม่ควรตรวจสอบเลยหรือ ว่าดีลที่เกิดขึ้นนั้นมีความถูกต้อง ว่าดีลนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะเงินสนับสนุนนี้มาจากภาษีประชาชนคนไทยทุกคน

สำหรับ 3 ดีลใหญ่ๆ ที่เหมือนจะเป็นก้อนเดียวกัน นั่นคือ 1.ระหว่าง บริษัท แอสตราเซเนกา กับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ 2.ระหว่าง บริษัท แอสตราเซเนกา กับ รัฐบาล และ 3. ระหว่างรัฐบาล กับ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งนี่คือ 3 ก้อนใหญ่ๆ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระต่อกัน แต่คือดีลเดียวกันที่มีการพูดคุยเจรจาร่วมกัน มีความเกี่ยวโยงกัน และที่สำคัญคือวัคซีนที่เรากำลังพูดถึงนี้มาจากภาษีประชาชน

“ยืนยันว่าเราทำงานตรวจสอบการใช้เงินที่มาจากภาษีประชาชนกับทุกบริษัทเอกชน บทบาทของผมเอง ของพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงอดีตเพื่อนร่วมงาน คือ ส.ส.พรรคก้าวไกล เราทำเรื่องนี้ เราพูดเรื่องการเอื้อประโยชน์บริษัทเอกชนที่ชัดเจนมาก ผมพูดเรื่องการที่รัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้กับ บริษัท คิงพาวเวอร์ ไม่รู้กี่ครั้ง หรือกรณีรถไฟฟ้าสายสีทองที่เอื้อให้กับเอกชนรายหนึ่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็เคยอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร

“การที่เราตรวจสอบการใช้ภาษีประชาชนไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งทำ เราทำมาตลอด และกรณีนี้ เรามีความเชื่อว่า 3 สัญญาก้อนใหญ่ๆ ที่ได้พูดไปนั้น ไม่ได้เจรจาอย่างเป็นเอกเทศ เพราะเอกสารที่เรามีชี้ไปทางนั้นว่าไม่มีการคัดเลือก ไม่มีการเปรียบเทียบ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องตั้งคำถาม” ธนาธร กล่าว

ธนาธร กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญสุดคือ เมื่อเราตั้งคำถามกับการที่ประเทศไทยได้รับวัคซีนครอบคลุมประชากรน้อย ฉีดได้ช้า และรัฐบาลมีการเอื้อประโยชน์เอกชนรายใดรายหนึ่งเฉพาะหรือไม่ สิ่งที่ตนได้รับก็คือการถูกรัฐบาลฟ้องเอาผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ผิด ป.อาญา ม.112 ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตลอด

ถ้าย้อนไปดู จะพบว่าคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามบิดเบือนประเด็นทุกครั้งเมื่อมีคนวิพากษ์วิจารณ์ความผิดพลาด โดยยกเอาสถาบันกษัตริย์มากลบเกลื่อนความไม่มีประสิทธิภาพของตนเองมาโดยตลอด อ้างความจงรักภักดี อ้างว่าตนเองปกป้องสถาบัน และเพราะเหตุนี้หรือไม่ คุณจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม จึงทำให้มีคนออกมาตั้งคำถามกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งในกรณีนี้ก็ชัดเจนว่าคนที่ดึงสถาบันกษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดหาวัคซีนไม่ใช่ตน แต่เป็นคุณประยุทธ์นั่นเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนหนึ่ง ธนาธรได้เปิดคลิปการแถลงข่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่เป็นประธานการเซ็นจองวัคซีนโควิด โดยท่อนหนึ่งกล่าวว่าในหลวงพระราชทาน บริษัทในพระปรมาภิไธยผลิตแจกจ่าย จากนั้น นายธนาธร กล่าวต่อว่า คลิปดังกล่าวเป็นการแถลงข่าวเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งคำถามคือ การที่ตนเองตั้งคำถามต่อการใช้งบประมาณของรัฐบาล แต่กลับถูกยัดเยียดคดีนั้นเป็นธรรมหรือไม่ ใครที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจะถูกใช้คดีปิดปากเรื่อยๆ อย่างนี้หรือไม่

เราในฐานะคนไทยซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียกับประเทศนี้ ต้องหาทางออกร่วมกัน ว่าตกลงการวิพากษ์วิจารณ์คุณประยุทธ์ การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เป็นการไม่จงรักภักดี คือการเป็นศัตรูกับสถาบันหรืออย่างไร ตนคิดว่าสังคมไทยทั้งสังคมต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้

จากนั้นเข้าสู่ช่วงการถามคำถามจากผู้สื่อข่าวถามว่า

ถาม : ประเด็นที่โดน ป.อาญา ม. 112 เป็นเพราะใช้คำว่าวัคซีนพระราชทานหรือไม่ ?
ธนาธร : คำนี้เราไม่ได้เป็นคนเริ่มใช้ มีคนเริ่มใช้คำนี้มาก่อน ซึ่งสามารถไปสืบกันได้ว่าใครเป็นคนเริ่มใช้ การที่เราแถลงเพราะกำลังบอกข้อเท็จจริงคือ การจัดซื้อวัคซีนมาจากเงินภาษีประชาชน รัฐบาลเอาภาษีประชาชนไปสั่งซื้อวัคซีนจาก บริษัท แอสต้าเซเนกา และเอาเงินส่วนนั้นจำนวนหนึ่งไปจ้าง บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์

ถาม : มีการบอกว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ไม่ได้แสวงหากำไรในการผลิตวัคซีนครั้งนี้ ?
ธนาธร : เราไม่เคยเห็น บริษัท สยามไบโอไซเอนน์ ออกมาพูดเรื่องการไม่แสวงหากำไรหรือหลักการ No profit No lost มีแต่ของ บริษัท แอสต้าเซเนกา ที่ออกมาพูดและยืนยันว่าเป็นรูปแบบ No profit No lost ดังนั้น ขอให้เปิดเอกสารทุกอย่างแก่สาธารณชนเพื่อจะได้รู้ว่าตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ มีการแสวงหากำไรหรือไม่

ถาม : ความคืบหน้าการบริจาคเครื่องมือทางการแพทย์ของทางคณะก้าวหน้า ?
ธนาธร : สามารถสืบค้นได้เลย สืบค้นได้ไม่ยาก เนื่องจากทางเรามีการเปิดเผยสู่สาธารณะว่าเป็นโรงพยาบาลอะไรบ้าง อีกทั้งโรงพยาบาลเปิดสาธารณะอยู่แล้ว ฝากผู้สื่อข่าวให้ไปทำความจริงให้ปรากฏแก่สังคมด้วย

ถาม : ขณะนี้คุณธนาธรโดนแจ้งข้อหาและฟ้องร้องไปกี่คดีแล้ว ?
ธนาธร : ผมเลิกนับคดีไปแล้ว

ถาม : การที่ตั้งคำถามในประเด็นที่ว่ามีการขาดทุนมาโดยตลอด อาจเป็นสาเหตุว่าเป็นเพราะบริษัทผลิตยาต้นทุนต่ำหรือไม่ ?
ธนาธร : มีใครเห็นหลักฐานแล้วหรือไม่ว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ผลิตต่ำกว่าราคาตลาดจริงๆ ผมไม่เห็น ดังนั้น จึงอยากตั้งคำถามกลับว่าหลักฐานอยู่ที่ไหน ที่แสดงว่าในการผลิตมีต้นทุนเท่าไหร่ ราคาขายเท่าใด แต่แท้ที่จริงแล้วการขายต่ำกว่าทุนทำไม่ได้สำหรับบริษัทจำกัด

ถาม : การออกมาเปิดเผยเช่นนี้ ทำเพื่อเหตุผลอะไร มีเจตนาอย่างไร ?
ธนาธร : ตั้งแต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่มาไม่เคยคิดเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง เพื่อให้ตนเองและพวกพ้องได้ประโยชน์ ที่พวกเราทำทั้งหมดเพราะพวกเราเป็นห่วงประเทศ อยากเห็นประเทศดีกว่านี้ ผมเองอายุ 42 ปี ทำการเมืองมา 2 ปี ก่อนทำการเมืองไม่เคยมีคดีติดตัวสักคดีเดียว แต่ตอนนี้มีนับไม่ถ้วน

ถาม : คดีความของครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง ?
ธนาธร : เรื่องคดีของครอบครัว ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ

ถาม : กรณีที่มีการโจมตีเรื่องเรือยอร์ชเป็นอย่างไรบ้าง เหตุใดยังไม่ได้มีการมาชี้แจง ?
ธนาธร : ที่ไม่ออกมาตอบโต้เพราะมันเป็นเรื่องเล็ก เรือยอร์ชลำนี้ตนเองและเพื่อน ซื้อมาจากบริษัทที่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง เป็นการซื้อเรือมือสอง ไม่ได้รู้จักเจ้าของ ซื้อขายตามราคาตลาด ที่สำคัญมากกว่านั้น เรื่องนี้ทั้งหมดเกิดเพราะเรือไฟไหม้ไม่ได้เกิดโดยตัวเอง แต่เกิดจากการวางเพลิง เพราะต้องการลดความเชื่อถือทางการเมือง และในระหว่างที่กำลังคิดว่าจะแจ้งความหรือไม่แจ้ง เพราะไม่อยากต้องการทำให้เป็นเรื่องใหญ่และเข้าทางฝ่ายตรงข้าม ตำรวจได้เดินทางเข้ามายังที่จอดเรือ อีกทั้งยังไม่ได้มีการแถลงข่าวแต่เหตุใดสำนักข่าวบางสำนักเอาข่าวไปลงได้ หากไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ เวลาที่เรือไฟไหม้ เวลาที่ตำรวจมาถึง เวลาที่สำนักข่าวลงข่าว กล่าวได้ว่าเครือข่ายนี้ทำลายทรัพย์สินของผม

ถาม : เรือยอร์ชนี้มีการแสดงในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ปปช. หรือไม่ ?
ธนาธร : มีการแสดงในบัญชีทรัพย์สิน

ถาม : คดีของน้องชาย คือ สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นอย่างไรบ้าง ?
ธนาธร : กรณีของน้องชายผม ได้มีการออกเอกสารชี้แจงต่อกรณีนั้นไปแล้ว สามารถไปดูในแถลงการณ์ที่ทางน้องชายผมได้ออกมาชี้แจงได้ เชื่อว่าเป็นความจงใจของใครบางกลุ่ม เชื่อว่าต้องการหยุดให้เราเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่พวกเราไม่ยอมแพ้ จะทำงานอย่างเข้มแข็ง ขอบคุณทุกกำลังใจที่พี่น้องประชาชนมีให้ พวกเราไปต่อแน่

ถาม : มีการกล่าวหากันว่า ทำเช่นนี้ทำให้เกิดการแตกแยกหรือไม่ มีเจตนาอย่างไร ?
ธนาธร : การที่ผมต้องการให้ประเทศไทยยังมีความหวัง การที่เรากลับมาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องให้ประเทศไทยกลับมามีนิติรัฐ ให้กฎหมายบังคับใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาค ให้ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศร่วมกันร่วมกัน การเรียกร้องแบบนี้ ทำให้สังคมแตกแยกใช่หรือไม่ คนที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกไม่ใช่ผม ใครกันแน่ที่ใช้วาจาแห่งความเกลียดชัง เครือข่ายไหนกันแน่

“ตอนนี้ประเทศไทยยังมีโอกาส ยังมีความหวัง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป ทำให้ประเทศไทยมีอารยะ มาร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อทำให้ประเทศไทยดีขึ้น ตั้งแต่ที่ตัดสินใจมาทำงานการเมือง ผมไม่เคยคิดจะเอาภาษีประชาชน ไม่เคยคิดอยากมีตำแหน่ง หากต้องการมีตำแหน่งเพื่อเปลี่ยนประเทศไทย เพื่อผลักดันประเทศไปสู่จุดนั้นก็จำเป็นต้องเป็น” ธนาธร กล่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเด่น

บทความ

   ดูทั้งหมด
15 ธันวาคม 2565    Common School

สถาบันครอบครัวแบบขงจื๊อและรัฐสวัสดิการของเกาหลีใต้

8 ธันวาคม 2565    Common School

FIFA World Cup กับด้านมืดของ (เหล่า) เจ้าภาพที่กำลังละเมิดสิทธิผู้อื่น

22 พฤศจิกายน 2565    Common School

Brave New World

19 พฤศจิกายน 2565    Common School

สายใยครอบครัวถักทอรัฐสวัสดิการ

19 พฤศจิกายน 2565    Common School

หรือที่ความรู้ไร้ประโยชน์เพราะมันคัดง้างระบอบอำนาจ? : อ่านไขว้ “ประโยชน์ของความรู้ที่ไม่มีประโยชน์” x “แม่ง โคตรโฟนี่เลย”

14 พฤศจิกายน 2565    Common School

“เรื่องง่ายๆ” นวนิยายที่บอกว่าระบบราชการไม่เรียกร้องทักษะการใช้เหตุผล

13 พฤศจิกายน 2565    การเมืองท้องถิ่น บทความ

จดหมายเปิดผนึก ถึงประชาชนที่เคารพ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการและบุคลากรท้องถิ่นทั่วประเทศไทย

9 พฤศจิกายน 2565    Common School

เครือข่ายทหารสายวัง 2 แผ่นดิน กรณี “ทหารเสือราชินี” และ “ทหารคอแดง”

7 พฤศจิกายน 2565    Common School

เรื่องเกิดจากนามสกุลใหม่: ทลายสังคมชายเป็นใหญ่ด้วยรักแท้ฝ่าข้อจำกัด (?)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า