เช้าวันนี้ ดูท่าแล้วที่ประชุมรัฐสภาคงจะมีมติ “ไม่รับหลักการ” ญัตติ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับประชาชน ที่ใช้ชื่อในการรณรงค์ว่า #รื้อระบอบประยุทธ์ มีประชาชนร่วมเข้าชื่อกว่า 135,000 รายชื่อ
ที่น่าสนใจคือ ตลอดการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาที่ร่วมกันพิจารณาเมื่อวานนี้ สิ่งหนึ่งที่ได้ยินได้ฟังบ่อยครั้ง คือ การพยายามสร้างภาพให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดูน่ากลัว เลวร้าย ซึ่งขอยกบางตัวอย่าง โดยไม่เอ่ยชื่อผู้อภิปราย อาทิ
“การเสนอร่างฉบับนี้ก็คล้ายๆ กับการยกร่างใหม่แหละ เพียงแต่ท่านเลี่ยง” หรือ “ขณะนี้มีเรื่องขอแก้ไข ม.112 และแนวคิดเหล่านั้น กับท่านที่เสนอแก้ รธน.ฉบับนี้” หรือ “แม้ใช้กระบวนการรัฐสภาพิจารณา แต่ผมคิดว่า ผลที่เกิดขึ้นแทบไม่ต่างการใช้อำนาจเพื่อยึดอำนาจ” หรือ “ที่ใช้คำว่า resolution ถ้าหากเปลี่ยนตัว s เป็นตัว v จะเป็นอะไรก็มิทราบ”
หรือแม้แต่ข้อกล่าวหาฉกรรจ์อย่าง “ร่างรัฐธรรมนูญนี้คือฉบับปฏิวัติ”
ทั้งๆ ที่ในตัวบทนั้นระบุชัดว่าเป็นการ “ปรับโครงสร้างประเทศ”
ประเด็นสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.มีปัญหา คือพวกเขามองว่า ร่างแก้ไขนี้จะทำให้เกิดการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นเผด็จการสภาผู้แทนราษฎร เป็นการสถาปนาเสือตัวใหม่ ให้ “ส.ส.เป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีปัญหากับเรื่องนี้มากมายนัก แต่ตรงกันข้าม ที่ผ่านมาไม่เคยติดใจ ไม่เคยตั้งคำถาม กับอำนาจที่มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจที่เห็นอยู่โต้งๆ
ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับอำนาจที่อยู่กับกลุ่มคนเพียงหยิบมือ จิ้มเลือกคนแบบผลัดกันเกาหลังเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญ? ตัดสินวินิจฉัยจนประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า เป็นพวกเดียวกันรอดหมด แต่ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามนั้นถูกกำราบถูกปราบจนเหี้ยนเต้?
ทั้งๆ ที่ นีคือการ “ปรับโครงสร้างสร้างประเทศ” ทำให้อำนาจของสถาบันการเมืองต่างๆ กลับมาอยู่ในความสมดุลย์
แต่ถ้าท่านจะสร้างภาพเลวร้าย เล่นใหญ่ว่า “ส.ส.เป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ผมถามว่าแล้วจะยังไง?
ถ้าความเป็นใหญ่นั้นมีที่มาจากประชาชน ถ้าความเป็นใหญ่นั้นประชาชนเป็นผู้มอบ “อำนาจ” ให้ และถ้า ส.ส.จะเลวร้ายสร้างระบบเผด็จการที่ท่านนิยามขึ้นมา หรือทำหน้าที่ได้อย่างเหลวแหลกในคณะกรรมการต่างๆ ที่เขาเข้าไปร่วมตามร่างนี้ ประชาชนก็เป็นคนตัดสิน ลงโทษ ไม่ให้ได้รับเลือกเข้าสภาอีกในสมัยถัดไป หรือบทลงโทษต่างๆ ก็มีกำกับไว้
วาทกรรมอย่าง “ส.ส.” เป็น “นักเลือกตั้ง” ดำรงอยู่และดูถูกประชาชนมายาวนานมาก
มีแต่ผู้ที่ไม่เคยมีความยึดโยงกับประชาชน ไม่เคยเห็นหัวประชาชน และกำลังจะสูญเสียอำนาจเท่านั้นแหละที่พยายามสร้างภาพให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็น “ปีศาจ”