ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือน หรือจะเนิ่นนานเป็นปี แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่ลืมเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นบ่ายวันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ได้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่
ทั้งนี้ ได้มีคน 7 คนใส่ชุดครุยขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ กระทำการในนามของศาลรัฐธรรมนูญลงมติเสียงข้างมากให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ได้แก่ นุรักษ์ มาประณีต, จรัญ ภักดีธนากุล, นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, บุญส่ง กุลบุปผา, ปัญญา อุดชาชน, วรวิทย์ กังศศิเทียม, และอุดมศักดิ์ นิติมนตรี
4 ใน 7 ท่านนี้มีตุลาการที่หมดวาระตำแหน่งไปแล้ว แต่คำสั่งของ คสช. ได้ต่ออายุการทำงานเรื่อยมา และเช่นเดียวกัน 2 ใน 7 คนนี้ถูกคัดเลือกให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่แต่งตั้งโดยหัวหน้าคณะ คสช. นั่นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต่อมาได้รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมืองหนึ่งให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และได้รับเสียงโหวตในการประชุมรัฐสภามากที่สุด โดยการสนับสนุนหลักอย่างพร้อมเพียงเสียงไม่แตกของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 คน ที่ คสช. ตั้งขึ้นมา
1 เดือนต่อมา คือ 21 มีนาคม 2563 กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่โดนตัดสิทธิ์ นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช ประกาศจัดตั้ง “คณะก้าวหน้า” เพื่อทำงานรณรณรงค์และขับเคลื่อนประเด็นที่อยากผลักดัน ขณะอีกด้านหนึ่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้ไปร่วมกันสร้าง “พรรคก้าวไกล” เดินหน้าทำงาน ผลักดันกฎหมาย ช่วยเหลือประชาชนผ่านสภา
กล่าวสำหรับ “คณะก้าวหน้า” ถึงวันนี้ 21 พฤษภาคม 2563 จึงนับได้ว่ากำเนิดเกิดขึ้นมาครบ 2 เดือนเต็ม โดยในช่วงที่ผ่านมาได้จัดทำโครงการช่วยเหลือประชน โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับกระทบจากวิกฤตใหญ่ 2 วิกฤต นั่นคือฝุ่นควันพิษในพื้นที่ภาคเหนือ และการระบาดของโรคโควิด-19
ผ่าน 3 โครงการสำคัญ ที่วันนี้ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ 1.โครงการผลิตและส่งมอบเครื่องฟอกอากาศ แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากไฟป่า-ฝุ่นควันพิษ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2.โครงการจัดสร้างอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) มอบแก่โรงพยาบาลที่แสดงความประสงค์ และ 3.คอนเสิร์ตระดมทุน MAYDAY MAYDAY เราช่วยกัน งานแสดงดนตรีจากศิลปินอิสระ ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ คณะก้าวหน้า
ผลิตและส่งมอบ “เครื่องฟอกอากาศ PM 001
ช่วยผู้ได้รับผลกระทบฝุ่นควันพิษ 8 จ.ภาคเหนือ
PM 001 หรือ Progressive Movement 001 คือชื่อรุ่นของเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งตั้งตามชื่อภาษาอังกฤษของ “คณะก้าวหน้า” ซึ่งจากสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควันพิษทางภาคเหนือที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี มีแนวโน้มว่าปีต่อๆ ไป อาจต้องระดมความช่วยเหลือผลิตเพิ่มมากขึ้นอีก
โครงการนี้ “คณะก้าวหน้า” จับมือภาคเอกชน ร่วมกันผลิตขึ้น ชุดแรกจำนวน 800 เครื่อง และนำส่งมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบอย่างหนักในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ โดยแบ่งเป็นมอบให้กับผู้มีความประสงค์ขอรับเครื่องฟอกอากาศในช่องทางออนไลน์ 300 เครื่อง และให้ทีมอาสาช่วยแจกอีก 500 เครื่อง
ทั้ง 2 ช่องทางนี้ สำหรับผู้มีคุณสมบัติอย่างน้อย 3 จาก 4 ข้อ ได้แก่ 1.อยู่ในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน จ.แม่ฮ่องสอน ,จ.น่าน จ.ลำปาง จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.แพร่ โดยพื้นที่ที่อาศัยอยู่มีค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับอันตราย คือ เกิน 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อย่างต่อเนื่อง 2.รายได้ต่อครัวเรือนจำกัด ขาดแคลนทุนทรัพย์ 3.บ้านที่มีผู้ป่วยติดเตียงที่มีปัญหาทางเดินหายใจเรื้อรัง และ 4.บ้านที่มีสมาชิกเป็นประชากรกลุ่มเสี่ยงจำนวนหลายคน ทั้งผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม นอกจากคณะก้าวหน้าและภาคเอกชนแล้ว โครงการนี้ยังเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมระดมทุนช่วยเหลือกันป้องกันไฟป่าฝุ่นควันพิษ โดยบริจาคเพื่อจัดสร้างเครื่องฟอกอากาศได้ผ่านมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี
ผลิตห้องตรวจเชื้อ – เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ส่งมอบ “อุปกรณ์แพทย์” โรงพยาบาลสู้โควิด -19
และในขณะที่สถานการณ์ทางภาคเหนือประสบปัญหาฝุ่นควันพิษ ทั่วประเทศรวมถึงทั่วโลกก็ถูกซ้ำอีกด้วยโรคระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่มาในนามของ “โควิด-19” โรคติดเชื้อจากไวรัส ที่แพร่ลามไปได้ง่าย และปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันได้
ท่ามกลางสถานกาณ์ดังกล่าว “คณะก้าวหน้า” ร่วมกับ บริษัทจรูญรัตน์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด กลุ่มผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจ Open Source Covid Thailand และทีมแพทย์ร่วมผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เพื่อมอบแก่โรงพยาบาลที่แสดงความประสงค์ต้องการใช้อุปกรณ์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวม15 โรงพยาบาลทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 21พฤษาคม)
ทั้งนี้ ด้วยมองเห็นว่าเนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ ส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆ ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ คณะก้าวหน้าพร้อมภาคเอกชนตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมแก้ไขปัญหาให้กับสังคมไทย ในฐานะองค์กรเอกชน ที่มีศักยภาพในการผลิตอุปกรณ์ที่เป็นที่ต้องการทางการแพทย์ จึงเริ่มระดมสมอง วางแผน กางข้อมูล เริ่มโครงการผลิตและมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ เช่น วัณโรค ต่อไปได้
อุปกรณ์การแพทย์ดังกล่าว ได้แก่
1 Modular ARI Clinic : ห้องตรวจโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจชนิดเฉียบพลัน ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการแรงดันบวก สำหรับบุคคลากรทางการแพทย์ด้านหนึ่ง และห้องความดันลบสำหรับผู้เสี่ยงติดเชื้อ/ผู้ถูกตรวจอีกด้านหนึ่ง ในรูปแบบที่ยกมาติดตั้งและถอดออกได้อย่างสะดวก
และ 2 Patient Transportation Chamber : อุปกรณ์ติดเสริมเตียงเคลื่อนย้าย ด้วยระบบแรงดันลบ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ในระหว่างเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
อุปกรณ์ทั้ง 2 รายการ ได้ใช้ข้อมูลจากเพจ Open Source Covid Thailand และคณะแพทย์ศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ที่เปิดให้สาธารณะผลิตและออกแบบ โดยมีบริษัทเอกชนที่ร่วมสนับสนุนในการผลิตได้แก่ จรูญรัตน์เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด , บริษัทซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จำกัด, และ กลุ่มบริษัทโอ.อี.ไอ พาร์ท จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการอุตสาหกรรมระดับโลก ทั้งนี้อุปกรณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละโรงพยาบาล
อุปกรณ์ทั้ง 2 รายการมีเป้าหมายในการช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในพื้นที่โรงพยาบาล และในระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ เพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับญาติมิตร, ผู้เดินทางสัญจรทั่วไป, ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ รวมถึงเพิ่มขวัญกำลังใจในการทำงานให้กับบุคลลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งอุปกรณ์ดังกล่าวยังมีความแข็งแรง สามารถติดตั้งถาวร เพื่อรับรองการรักษาโรคอื่นๆ ที่ติดต่อในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคโควิด-19 ,วัณโรค เป็นต้น
โครงการนี้ ธนาธร จึงรุุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ลุยคุมงานเองตั้งแต่กระบวนการผลิต ทั้งนี้ คณะก้าวหน้าและทีมผู้ผลิตได้ส่งมอบห้องตรวจเชื้อแรงดันลบ Modular ARI Clinic และเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแรงดันลบ Patient Transportation Chamber ให้กับโรงพยาบาลที่แสดงความประสงค์ต้องการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว โดยส่งมอบและติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนี้
1.โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (7 ห้องคู่) ติดตั้งเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2563
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งวันที่ 19 พฤษภาคม 63
2. โรงพยาบาลยะลา
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (4 ห้องคู่) ติดตั้งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2563
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2563
3. โรงพยาบาลกงหรา จ.พัทลุง
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (4 ห้องคู่) ติดตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2563
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2563
4. โรงพยาบาลพุทธโสธร จ. ฉะเชิงเทรา
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (3 ห้องคู่) ติดตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563
5. โรงพยาบาลยะรัง จ. ปัตตานี
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (5 ห้องคู่) ติดตั้งเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งวันที่ 7 พฤษภาคม 2563
6. โรงพยาบาลคลองหอยโข่ง จ. สงขลา
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (3 ห้องคู่) ติดตั้งวันที่ 8 พฤษภาคม 2563
7. โรงพยาบาลสนาม (ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า นานาชาติเชียงใหม่) จ. เชียงใหม่
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (5 ห้องคู่) ติดตั้งวันที่ 13 พฤษภาคม 2563
– Patient transportation Chamber 2 ชุด ติดตั้งวันที่ 13 พฤษภาคม 2563
8. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (5 ห้องคู่) ติดตั้งวันที่ 17 พฤษภาคม 2563
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้ง 17 พฤษภาคม 2563
9. โรงพยาบาลสันทราย จ. เชียงใหม่
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (5 ห้องคู่) ติดตั้งวันที่ 17 พฤษภาคม 2563
– Patient transportation Chamber 3 ชุด ติดตั้งวันที่ 17 พฤษภาคม 2563
10. โรงพยาบาลชลบุรี
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งวันที่ 19 พฤษภาคม 2563
11.โรงพยาบาลเขาพนม จ. กระบี่
– Modular ARI Clinic 1 ชุด (3 ห้องคู่) ติดตั้งวันที่ 17 พฤษภาคม 2563
12. โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จ. ภูเก็ต
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งวันที่ 18 พฤษภาคม 2563
13. โรงพยาบาลสนาม ม.อ. สงขลา วิทยาเขตภูเก็ต
– Patient transportation Chamber 1 ชุด ติดตั้งวันที่ 18 พฤษภาคม 2563
14. โรงพยาบาลสงขลา
– Patient transportation Chamber 2 ชุด ติดตั้งวันที่ 17 พฤษภาคม 2563
ปิดโครงการระยะแรกเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีโรงพยาบาลอื่นๆ ที่แสดงความต้องการอุปกรณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนที่มีความพร้อมเข้าร่วมเพิ่มเติมอย่าง LEO GREAT ENGINEERING ที่ได้เข้ามาช่วยงานด้าน construction และเพื่อเตรียมรับมือกับภาวะเปิดเมืองระยะที่ 2 หรือแม้แต่นำไปใช้สำหรับการรักษากับผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอื่นๆ ที่อยู่ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานงานกับโรงพยาบาล เพื่อพิจารณาดำเนินโครงการในระยะต่อไป
คอนเสิร์ตระดมทุน MAYDAY MAYDAY
ช่วยศิลปินได้รับผลกระทบ – ประชาชน “เราช่วยกัน” (เอง)
พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งประกาศตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา ประชาชนและภาคธุรกิจต่างได้รับผลกระทบจากการงดเว้นกิจกรรม และปิดสถานที่ทำงาน ทำให้การประกอบอาชีพ การใช้ชีวิตโดยปกติต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจบันเทิง จากการแบ่งประเภทธรุกิจของรัฐบาล 4 กลุ่ม ธุรกิจบันเทิงจัดอยู่ในกลุ่มประเภทที่ 4 สีแดง (กลุ่มความเสี่ยงสูง)
ด้วยเหตุนี้คณะก้าวหน้าจึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ได้ผลกระทบในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ จึงริเริ่มกิจกรรม“คอนเสิร์ตระดมทุน MAYDAY MAYDAY เราช่วยกัน” เพื่อเป็นการจ้างศิลปินอิสระที่เว้นว่างงานในช่วงเวลาล็อกดาวน์ มาเล่นคอนเสิร์ตผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจคณะก้าวหน้า เพื่อใช้เสียงเพลงเยียวยาจิตใจ บรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชน โดยกิจกรรมจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 1และเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 19.00น. เป็นต้นไป
โดย ศิลปินและวงดนตรีที่เข้าร่วม ได้แก่ วง Pale, Jew The Blues Color, iHear Band, วงกระหรี่น้ำส้มหมูก้อนและไตภีมร์, ดิษฐ์ Smile Buffalo, วง Tucxer & The DDxT, ฮาร์ท สุทธิพงษ์, วงมะจัง, Brother Band นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมร่วมประมูลภาพงานศิลปะ จากกลุ่มศิลปินก้าวหน้า และศิลปินอิสระ โดยรายได้ทั้งหมดที่ได้รับการบริจาคจากภาคประชาชน ในระหว่างคอนเสิร์ตจะถูกส่งต่อไปเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
การเปิดรับริจาคเงินจากสาธารณะ เพื่อส่งมอบต่อให้กับผู้ที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 ที่แสดงความต้องการผ่านการพิมพ์ข้อความในโพสต์การแสดงคอนเสิร์ต ของเฟซบุ๊กแฟนเพจคณะก้าวหน้า โดยผู้แสดงความประสงค์จะได้รับเงินจำนวน 3,000 บาท ซึ่งทางผู้จัดเห็นว่าเป็นจำนวนเงินพื้นฐานที่จะสามารถบรรเทาความทุกข์ในสถานการณ์อันยากลำบากนี้ได้ หรืออาจช่วยผู้ได้รับผลกระทบในเรื่องภาระค่าใช้รายเดือน เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าดำรงชีพต่างๆ
ทั้งนี้ เมื่อปิดโครงการมียอดบริจาค “เราช่วยกัน” รวมทั้งสิ้น 7,282,897.34 บาท สามารถส่งต่อให้ผู้ขอรับสิทธิ คนละ 3,000 บาท เป็นจำนวน 2,427 คน (สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้รับสิทธิ์ทั้งหมดได้ที่.. รายชื่อผู้ได้รับเงิน 3,000 บาท ในโครงการ MAYDAY MAYDAY เราช่วยกัน จำนวน 2,427 คน)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ที่ขอรับสิทธิ์มีจำนวนหลักล้านคน เราขอแสดงความเสียใจที่ไม่สามารถตอบสนองต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ครบถ้วน เนื่องจากคณะก้าวหน้าทำได้เพียงเป็นสื่อกลางในการรวบรวมเงินบริจาคและส่งต่อให้ผู้ประชาชนด้วยกันเท่านั้น
คณะก้าวหน้าขอขอบคุณอีกครั้งในน้ำใจของพี่น้องคนไทย ที่ทำให้มีคนหลายพันคนได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือ เพื่อประคับประคองชีวิตของตนเองต่อไปในห้วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ กิจกรรม MAYDAY MAYDAY เราช่วยกัน เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ส่งมอบความสุขจากเสียงเพลงของเหล่าศิลปินไปเยียวยาจิตใจผู้ฟัง ส่งต่อเงินจากพี่น้องประชาชนไปถึงมือผู้เดือดร้อน เป็นความช่วยเหลือจากประชาชนสู่ประชาชนด้วยกัน
แต่สิ่งที่เราคาดหวังว่าจะเกิดกับประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา ก็คือรัฐบาลที่ดูแลโอบอุ้มประชาชนอย่างกว้างขวางครอบคลุม เท่าเทียมเป็นธรรม และตั้งอยู่บนผลประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
___
เป็นบทสรุปของ 3 โครงการสำคัญของ “คณะก้าวหน้า” ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางปัญหาฝุ่นควันพิษในภาคเหนือ และวิกฤตโควิด -19 ที่แพร่ลามไปทั่วโลก
และ #เราไปต่อ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น นั่นคือประเทศที่คนเท่ากัน ประเทศเท่าทันโลก นานาอารยประเทศ
