คณะก้าวหน้า จับมือกับ กลุ่ม We Volunteer และเครือข่ายร้านอาหารผู้ประสบภัยโควิด ผุดไอเดียโครงการ “มื้อนี้พี่เหมาเอง” เป็นตัวกลางช่วยเหลือ 2 ต่อ ต่อลมหายใจให้ร้านอาหารรายเล็กอยู่ได้ ผู้เดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจโควิด-19 ได้อิ่ม โดยดำเนินโครงการเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 27 ก.ค. – 10 ส.ค. 2564
ตลอดทั้งโครงการมีประชาชนสายเปย์ที่สนใจเข้ามาช่วยเหมาร้านอาหารถึง 91 คน ทำการจัดสรรออเดอร์จับคู่กับร้านอาหารรายเล็ก 79 ร้าน และนำข้าวกล่องไปแจกให้ผู้เดือดร้อนได้อิ่มรวม 7,685 กล่อง ในหลายชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั่วประเทศไทย
ปัจจุบันมีร้านอาหารรายย่อยได้รับผลกระทบจากมาตรการและการแพร่ระบาดโควิดอย่างหนัก บวกกับประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ตกงาน ขาดรายได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ “มื้อนี้พี่เหมาเอง” จับคู่ช่วยเหลือสองต่อ เหมาออเดอร์ทำข้าวพร้อมจัดแจกในชุมชนที่เดือดร้อนให้ด้วย
ด้านหนึ่ง ร้านอาหารรายย่อยได้รับผลกระทบจากมาตรต่างๆ และการแพร่ระบาดโควิดอย่างหนัก ห้ามนั่งทานอาหาร เจ้าของร้านแทบจะเอาตัวไม่รอดจนใกล้ปิดกิจการหลายแห่ง ลูกจ้างร้านอาหารตกงาน แต่กลับไม่มีมาตรการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมใดๆ จากรัฐบาลเลย ทั้งที่ทุกคนพยายามผนึกกำลังสู้เพื่อยื้อกิจการให้ได้นานที่สุดหลังได้รับผลกระทบมากว่า 2 ปีเต็ม
ยาสมิน จากร้าน Rifai Kitchen หนึ่งในร้านอาหารที่เข้าร่วมรับออเดอร์ในโครงการ สะท้อนว่าร้านอาหารรายเล็กประสบปัญหาจากทั้งมาตรการไม่ให้ลูกค้านั่งทานอาหารในร้านและมาตรการห้ามไม่ให้ลูกค้าซื้ออาหารจากหน้าร้านใน community mall ซึ่งกำหนดให้ต้องสั่ง delivery เท่านั้น ยิ่งทำให้ลูกค้าจากเดิมที่น้อย กลายเป็นแทบไม่มีเลย การได้ออเดอร์จำนวนเยอะสามารถช่วยพยุงร้านได้ระดับหนึ่ง
“ออเดอร์เข้ามาน้อย กว่าจะมาแต่ละทีใช้เวลานาน ที่ผ่านมาร้านต้องลดจำนวนคนงานลง จนเหลือแค่เจ้าของร้านทำกันเองทุกอย่าง ด้านหนึ่งก็สงสารพนักงานที่ต้องตกงาน แต่เราเองก็ไม่มีทางเลือกเพราะไม่สามารถจ่ายต้นทุนได้”
ยาสมิน จากร้าน Rifai Kitchen กล่าว
บวกกับประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ นอกจากจะเสี่ยงตายจากโควิดแล้ว ยังเสี่ยงตายจากโรคไม่มีจะกินด้วย ผู้คนจำนวนมากตกงาน เมื่อเสาหลักของครอบครับติดโควิดทั้งบ้านก็ขาดรายได้ หากต้องกักตัวที่บ้านก็ไม่สามารถทำงานได้
ด้าน Nutsu สายเปย์ที่ร่วมสั่งอาหารเล่าว่าเหตุผลที่ตัดสินใจสั่งอาหารในโครงการ เพราะติดตามคณะก้าวหน้าเป็นปกติอยู่แล้ว เห็นว่าโครงการมีความน่าเชื่อถือ ตนเองเคยบริจาคช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เห็นว่าสะดวกดี ได้ช่วยสองต่อทั้งร้านอาหารรายเล็กและคนในชุมชนด้วย จึงมาสั่งออเดอร์
“ตอนนี้ทุกกันแย่กันหมด ถ้าไม่ช่วยกันเอง ก็คงไม่เห็นทางไป พอเราไม่ได้ลำบากมาก ก็ต้องแบ่งปันกัน มีแสงที่ไหน ต้องช่วยกันทำให้มันสว่าง” คุณ Nutsu บอก
ตลอดโครงการมีประชาชนให้ความสนใจเหมาข้าวกล่องเครือข่ายร้านอาหารรายย่อยที่ร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะส่งต่อให้กับกลุ่ม We Volunteer รวมถึงเครือข่ายของคณะก้าวหน้าทั่วประเทศไทย เพื่อทำการส่งให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดตามชุมชนต่างๆ ต่อไป โดยการจัดการเป็นไปแบบเว้นระยะห่าง ในชุมชนส่วนมากจะเป็นการขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปแจกตามบ้าน ลดความเสี่ยง ไม่ต้องให้คนนอกเข้าไปในชุมชน และไม่ต้องต่อคิวกันแน่น
เอกราช อุดมอำนวย ตัวแทนจากเครือข่ายร้านอาหารผู้ประสบภัยโควิด ระบุว่า “เรารู้ว่าความช่วยเหลือเหล่านี้มันลอยอยู่ในอากาศ จะคว้ามายังไงให้ได้ โชคดีที่คณะก้าวหน้าได้รวบรวมโอกาสเหล่านี้มาให้”
“ในระยะยาวพวกเราจะสามารถยืนต้านทานกระแสลมแห่งภัยโควิดได้อีกนานมากน้อยเพียงไรไม่อาจทราบได้เลย ชะตากรรมพวกผมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องหันมองแล้วทบทวนว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร”
เอกราช อุดมอำนวย ตัวแทนจากเครือข่ายร้านอาหารผู้ประสบภัยโควิด
แม้จะเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าในระยะสั้น อาจไม่สามารถช่วยเหลือได้ทุกคน แต่เราต้องพยายามทำเท่าที่ทำได้ ในเมื่อรัฐบาลไม่ชดเชย ไม่เยียวยา ไม่ทำอะไรเลย พวกเราเลยต้องมาเดินหน้าช่วยเหลือกันเอง
ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อความช่วยเหลือ ให้ร้านอาหารรายเล็กอยู่ได้ ผู้เดือดร้อนได้อิ่ม
ขอบคุณร้านอาหารทุกร้านที่มาร่วมโครงการ เราขอเป็นกำลังใจให้ร้านอาหารรายเล็กทุกร้านต่อสู้กับวิกฤตนี้ต่อไป