ตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์ “โควิด-19” เราก็ได้เห็นมาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐดำเนินการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสที่ยังไม่มีวัคซีนและยารักษา ดังนั้น มาตรการที่รัฐบาลประเทศต่างๆ ใช้ก็คือการปิดเมือง (Lockdown) และการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distantcing) ซึ่งในรายละเอียดของมาตรการมีแนวทางปฏิบัติที่ต่างกันไป ทั้งแนวการใช้อำนาจรัฐแบบเผด็จการบังคับประชาชน และแนวที่เสนอมาตรการโดยฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับประชาชน และรัฐสภา โดยมีประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศเป็นทัพหน้าที่สำคัญ ต่อสู้กับภาวะโรคระบาด
ที่ต้องจับตามอง คือ มาตรการต่าง ๆ มาพร้อมกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือคนในช่วงที่ต้องปิดเมือง และเว้นระยะห่างทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยเหลือบุคคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะที่กำลังเป็นที่พูดถึงในขณะนี้ คือ เทคโนโลยีที่เรียกว่า Contact Tracing หรือเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกสุขภาพของผู้ที่เราพบปะ และช่วยเตือนว่าเรามีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่
Contact Tracing เป็นวิธีการที่นำเสนอโดยทีม Gov Tech ของสิงคโปร์ โดยใช้เทคโนโลยีบลูธูทในสมาร์ทโฟน รับและส่งข้อมูลระหว่างสมาร์ทโฟนของเรา และสมาร์ทโฟนของผู้อื่นที่อยู่ระยะสัญญาณบลูธูท โดยข้อมูลจะไม่สามารถระบุว่าใครเป็นใคร แต่จะเก็บข้อมูลรหัสแทนบุคคลที่เข้าใกล้เราไว้ในเครื่องเป็นเวลา 14 วัน
หากระบบได้ข้อมูลจากฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อว่า คนที่เคยเข้าใกล้เราในช่วง 14 วัน ติดเชื้อโควิด-19 ระบบก็จะเตือนเราว่ามีความเสี่ยง ซึ่งโดยหลักการแล้ว ระบบจะรักษาข้อมูลเก็บไว้ในเครื่องสมาร์ทโฟนของเรา และไม่ให้สามารถระบุตัวตนได้ว่าผู้ใช้เป็นใคร พบปะกับใคร ที่ไหน หรือใครเป็นผู้ติดเชื้อ แลเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีข่าวสำคัญของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีนั่นคือ Apple และ Google ประกาศว่าจะเปิด API บนระบบปฏิบัติการของตนเองทั้ง iOS และ Android เพื่อรองรับเทคโนโลยี Contact Tracing
ขณะที่หลายประเทศมีแผนที่จะพัฒนาแอพลิเคชันที่ใช้เทคโนโลยี Contact Tracing และให้ประชาชนได้ติดตั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ รวมถึงประเทศไทยที่เปิดตัวแอพลิเคชัน “หมอชนะ” โดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี Contact Tracing มีข้อถกเถียงอย่างมากถึงประเด็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เพราะแอพลิเคชันที่พัฒนาใช้ในบางประเทศนั้น ไม่ได้ทำตามหลักการที่ต้องการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลไว้สูงสุด เช่น มีการเก็บข้อมูลการพบปะกันไว้บนเครื่องแม่ข่าย หรือมีการใช้ GPS ระบุตำแหน่งการใช้แอพลิเคชัน รวมทั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนได้มากน้อยเพียงใด
เรื่องที่จะต้องทำควบคู่กับการ Tracing คือการ Testing หรือต้องขยายการตรวจการติดเชื้อโควิด-19 ไปพร้อมกันด้วย เพราะต้องมีข้อมูลผู้ติดเชื้อที่อัปเดตตลอดเวลา หากฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อไม่อัปเดตว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มหรือลด หรือคนที่เคยติดเชื้อตอนนี้ปลอดเชื้อ แต่ยังมีข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อ การใช้ระบบ Contact Tracing ก็จะไม่มีประสิทธิภาพ
แอพลิเคชัน “หมอชนะ” ที่เปิดตัวโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากบทความการให้สัมภาษณ์ของทีมผู้พัฒนา* ก็อธิบายถึงการทำงานว่า แอพลิเคชันอัปโหลดข้อมูลการพบปะ และตำแหน่ง GPS ของผู้ใช้ไว้บนเครื่องแม่ข่าย ถึงแม้ข้อมูลจะเป็นรหัสที่ไม่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นว่ามีกระบวนการสืบข้อมูลย้อนกลับที่จะสามารถระบุเครื่องสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ได้ อีกทั้งกระบวนการดูแลข้อมูลของผู้ใช้แอพลิเคชันก็ยังไม่ชัดเจน และะหน่วยงานที่จะเข้ามาทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังไม่มีความพร้อม
ที่สำคัญคือ มีแนวคิดที่จะใช้แอพลิเคชัน “หมอชนะ” เสริมในช่วงการคลายมาตรการLockdown โดยให้ผู้ใช้ติดตั้งแอพลิเคชัน และทำแบบประเมินสุขภาพ เพื่อให้ได้ QR Code ยืนยันก่อนเข้าใช้บริการร้านค้า ร้านอาหาร หรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งอาจจะนำพาไปสู่แนวคิดแบบ Social Credit ที่มีเฉพาะบางกลุ่มได้สิทธิพิเศษ และมีคนอีกกลุ่มโดนจำกัดสิทธิ์กระทบต่อเรื่องสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่ถนัดการใช้เทคโนโลยี หรือกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี
บทเรียนจากการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท โดยให้ใช้ช่องทางเดียวผ่านเว็บไซต์ “เราไม่ทิ้งกัน” ถึงแม้เป็นแนวคิดว่า เทคโนโลยีจะทำให้การคัดกรองผู้มีคุณสมบัติทำได้รวดเร็ว แต่ก็ทิ้งคนกลุ่มใหญ่ที่สมควรได้รับการเยียวยาไว้ข้างหลัง
สร้างความเจ็บช้ำให้ประชาชน จนต้องมาเรียกร้องแบบเอาชีวิตเข้าแลก ดังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้ากระทรวงการคลัง ซึ่งสะท้อนถึงการคิดไม่รอบด้าน และความไม่ใส่ใจในสภาพความจริงที่คนในสังคมยังมีกลุ่มที่เดือนร้อนสาหัส และเทคโนโลยีอาจเป็นสิ่งซ้ำเดิมพวกเขา หากมีวิธีปฏิบัติที่ไม่ใส่หัวใจความเป็นมนุษย์เข้าไป
_____
อ้างอิง : *สัมภาษณ์ทีมพัฒนาแอป “หมอชนะ” บันทึกการเดินทาง วิเคราะห์ความเสี่ยง COVID-19 ให้โดยอัตโนมัติ https://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=983