รัฐบาลกำลังเปิดศึกกับประชาชน
กรณี ดารา นักแสดง ดาหน้า “Call Out” แล้วถูกดำเนินคดีอาจเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่นำไปสู่การล่มสลายของรัฐนาวา ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขาประจำเดินหน้าออกมาแจ้งความกล่าวหา
ไม่ว่าจะเป็น สนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
ไม่ว่าจะเป็น อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หรือ คตส.
ภายใต้คำอธิบายที่บอกว่า “หวังดี” ของ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส
“ต้องพูดให้บ้านเมืองเดินหน้า” ท่าน รมต.กล่าว
พร้อมกับย้ำว่า ดารา นักแสดง มีอิทธิพล มีคนรักคนศรัทธา สามารถทำให้คนเชื่อได้ ดังนั้น ต้องพูดให้ครบถ้วน ถูกต้อง ไม่ใช่พูดแค่ครึ่งเดียว หรือบิดเบือน
รายที่เป็นข่าวโด่งดัง คือ ดนุภา คณาธีรกุล หรือ “มิลลิ” แร็ปเปอร์วัยรุ่นชื่อดัง ที่ออกมาโพสต์ข้อความวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล
โดนแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมๆ กับที่เกิดกระแส #saveมิลลิ พุ่งทะยานในโลกออนไลน์
ล่าสุด “แร็ปเปอร์” วัย 18 ปี เข้ารายงานตัวกับตำรวจเป็นที่เรียบร้อย โดนข้อหา หมิ่นประมาทด้วยข้อความอันเป็นเท็จ วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท
ทำให้เกิดคำถาม การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือแม้แต่ “ด่า” รัฐบาล อย่างที่เรารู้ว่ารัฐบาลนี้ขับเคลื่อนด้วยการด่า เป็นความผิดด้วยเหรอ?
ทุกยุคทุกสมัย ถ้ารัฐบาลบริหารไม่ดีคนก็วิจารณ์ คนก็ออกมาด่า
แต่ทำไม “รัฐบาลประยุทธ์” วิจารณ์ไม่ได้ ด่าไม่ได้
กลับกัน ถ้าผมโพสต์ข้อความว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เก่ง ฉลาด บริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คนไทยสุขสบาย เศรษฐกิจดี มีกินมีใช้
“และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด รัฐบาลก็จัดการได้อยู่หมัด ด้วยการเร่งตรวจเชิงรุกให้กับประชาชนทุกพื้นที่ ยับยั้งการแพร่ระบาดได้ ทั้งยังจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพฉีดให้ประชาชนได้อย่างทันท่วงที ประชาชนอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีใครต้องตายข้างถนน”
อย่างนี้จะโดนข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา “ข้อความอันเป็นเท็จ” วิจารณ์การทำงานนายกรัฐมนตรี มั้ยครับ?
มีคนแซวว่า “ไม่หมิ่น” แต่ “นำเข้าข้อความอันเป็นเท็จ”
ผมเถียงและสู้คดีสุดตัวครับ เพราะกรณีนี้บรรดาท่านรัฐมนตรีทั้งคณะ และคนที่ยังคงเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะเป็นพยานได้ว่านี่คือความจริง
กลับมาเรื่องของรัฐมนตรีกระทรวงดีอีเอสอีกเล็กน้อย ผมติดใจที่คำว่า ต้องพูดครบถ้วน ถูกต้อง ไม่ใช่แค่ครึ่งเดียว ไม่ใช่บิดเบือน
มันทำให้หวนคิดถึงครั้งที่ท่านยังเป็น ส.ส. ยังไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี
เมื่อ 2 ธันวาคม 2553 ท่านตั้งกระทู้ถามสด ณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มาจากพรรคเดียวกัน คือพรรคพลังประชารัฐ แบบที่น่าจะเรียกว่า “ชงกันเอง กินกันเอง”
กรณีม็อบ “นักเรียนเลว”
กลางสภาอันทรงเกียรติที่ชื่อ “สัปปายะสภาสถาน” ซึ่งแปลว่าสถานที่ประกอบความดีนั้น คำถามของ ชัยวุฒิ ท่อนหนึ่งระบุว่า
“กิจกรรมนักเรียนมีเงินทุนจากกลุ่มการเมืองให้ด้วย ไปทำกิจกรรมต่างๆ ไปเคลื่อนไหวกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กเกิดความคิดความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับชาติบ้านเมืองของเรา ท่านจะสกัดกั้นสิ่งเหล่านี้อย่างไร สกัดกั้นขบวนการของนักการเมืองเลวๆ ที่ชักนำให้เกิดนักเรียนเลว ท่านจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร”
ณัฏฐพล ตอบว่า
“คนคิดใจร้ายมาก ทำให้เด็กเยาวชนของเราต้องยืนประจันหน้ากับสถานศึกษา ซึ่งก็ไม่ทราบว่าความรุนแรงจะเกิดขึ้นขนาดไหน”
นี่คือตัวแทนประชาชนที่มีอิทธิพล มีคนรักคนศรัทธา สามารถทำให้คนเชื่อได้
นีคือกลางสภาอันทรงเกียรติ
ถามว่า นี่คือคำถามที่ครบถ้วน ไม่ครึ่งเดียว ไม่บิดเบือน ใช่หรือไม่? วิญญูชนพึงพิจารณาตัดสินได้
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ อย่าให้สังคมต้องตั้งคำถาม “นำเข้าข้อความอันเป็นเท็จ” แบบไหน เป็นพวกใครถึงจะไม่ผิด ?
